ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน เกิดจากอะไร? ควรแก้และป้องกันยังไงดี

ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน เกิดจากอะไร? ควรแก้และป้องกันยังไงดี

12 เมษายน 2024

Share on
ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน เกิดจากอะไร? ควรแก้และป้องกันยังไงดี1

เป็นปกติที่สาว ๆ จะรู้สึกเป็นกังวลเมื่อประจำเดือนมาผิดปกติ และยิ่งเมื่อประจำเดือนไม่มา 1 เดือน ก็ยิ่งสร้างความวิตกกังวลไปได้หลายอย่าง เพราะนั่นสามารถเป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ นอกจากนั้นอาจขึ้นเกิดจากโรคต่าง ๆ อีกด้วย ดังนั้นควรใจเย็น ๆ และค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการขาดประจำเดือน เพื่อจะได้ทำการดูแล และรักษาได้อย่างถูกต้อง

ปกติประจำเดือนมาทั้งหมดกี่วัน? 

ปกติแล้วประจำเดือนจะมาทุก 28 วัน แต่ระยะเวลาก็อาจจะสั้นลงหรือยาวขึ้นได้ในช่วง 21-35 วัน เนื่องจากปัจจัยต่าง ๆ ที่ทำให้ระยะก่อนการตกไข่ยาวไม่เท่ากัน เช่น ความเครียด และสารอาหาร ที่สามารถส่งผลให้รอบเดือนมาไม่พร้อมกัน แต่ปกติแล้วประจำเดือนควรมาช้าที่สุดไม่เกิน 7 วันจากรอบเดือนปกติ และปกติแล้วประจำเดือนควรมาเป็นระยะเวลา 3-5 วัน นานที่สุดไม่เกิน 7 วัน

ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน เกิดจากอะไร?

ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน เกิดจากอะไร? ควรแก้และป้องกันยังไงดี2

อาการประจำเดือนไม่มา 1 เดือน หรือนานกว่าปกติ สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้

  • เป็นอาการเริ่มต้นของผู้หญิงที่เข้าสู่วัยทอง มักเกิดขึ้นในกลุ่มผู้หญิงในช่วงอายุ 45-55 ปี 
  • มีระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชายสูง และมีระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน หรือฮอร์โมนเพศหญิงต่ำ
  • มีความเครียดสูงสะสม จนส่งกระทบกับการหลั่งฮอร์โมน และสารเคมีในสมอง
  • การใช้ยาคุมกำเนิดบางชนิด รวมไปถึงยารักษาอาการทางจิตเวชบางชนิด สามารถทำให้ประจำเดือนเลื่อน หรือไม่มาชั่วคราวได้
  • การมีน้ำหนักมาก หรือน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ปกติ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับสารอาหารที่ไม่สมดุลย์ และส่งผลกับการสร้างฮอร์โมนในร่างกาย
  • เป็นสัญญาณของการตั้งครรภ์ 

นอกจากนี้ อาการประจำเดือนไม่มา 1 เดือน ยังสามารถเป็นสัญญาณของโรค และภาวะผิดปกติของร่างกายต่าง ๆ เช่น

  • มะเร็งรังไข่
  • เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
  • ปากมดลูกตีบ
  • เนื้องอกบริเวณมดลูก 
  • ถุงน้ำในรังไข่
  • อุ้งเชิงกรานอักเสบ
  • นิ่วในท่อไต
  • การตั้งท้องนอกมดลูก

ดังนั้นเมื่อมีอาการประจำเดือนไม่มาครบ 1 เดือน แล้วเมื่อตรวจแล้วว่าไม่ได้ตั้งท้อง ควรได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทันที

รวมคำถามเกี่ยวกับประจำเดือนและการตั้งครรภ์

ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน เกิดจากอะไร? ควรแก้และป้องกันยังไงดี3

ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน จะท้องไหม?

อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ เพราะอาการประจำเดือนไม่มา 1 เดือน สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งถ้าประจำเดือนไม่มาเพราะตั้งครรภ์ จะสามารถตรวจพบได้ตั้งแต่ 2-3 วันหลังจากอาการรอบเดือนมาช้า โดยสามารถลองใช้ที่ตรวจครรภ์ด้วยตัวเอง หรือเข้ารับการตรวจโดยแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญได้

ปรึกษาไม่ระบุตัวตนผ่าน Talk to PEACH

ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน แต่มีตกขาว เป็นเพราะอะไร?

อาการประจำเดือนไม่มา 1 เดือนแต่มีตกขาว เกิดจากการหลั่งสารคัดหลั่งเพื่อกำจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกภายในช่องคลอดซึ่งไม่เป็นอันตราย แต่ในบางกรณีการมีตกขาวอาจเกิดจากการความผิดปกติของฮอร์โมน หรือเป็นสัญญาณของการท้องได้เช่นกัน

ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน ควรทำอย่างไร?

แนะนำให้ตรวจครรภ์ด้วยตัวเองก่อนในเช้าของวันที่ 8 แล้วจึงตรวจครรภ์ซ้ำอีกครั้งอีก 2 วันถัดมา และทำซ้ำจนกว่าประจำเดือนจะมา แต่หากประจำเดือนไม่มาและคลาดเคลื่อนไปนานกว่า 2 สัปดาห์ แนะนำให้เข้าพบแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อตรวจหาสาเหตุ และทำการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที ที่สำคัญคือไม่ควรซื้อยาใด ๆ มารับประทานเอง เนื่องจากยังไม่รู้ถึงสาเหตุที่แน่ชัด และอาจส่งผลเสียต่อร่างกายมากกว่าผลดีได้

วิธีการป้องกันภาวะประจำเดือนมาผิดปกติ

  1. หลีกเลี่ยงการเกิดความเครียด
  2. พักผ่อนให้เพียงพอ และสร้างความผ่อนคลาย
  3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ในปริมาณที่เหมาะสม
  4. รักษาน้ำหนักตัวไม่ให้สูงหรือต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน
  5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

กังวลใจ ประจำเดือนไม่มา 1 เดือน คุยกับ Talk to PEACH!

Talk to PEACH Promo
ดาวน์โหลดแอป Talk to PEACH เพื่อปรึกษา

สามารถปรึกษาเรื่องทางเพศ รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับเพศได้อย่างสบายใจในทุก ๆ แง่มุม ไม่ต้องเปิดเผยชื่อ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน สามารถรับคำปรึกษาได้ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk To PEACH: https://oci.ltd/Cxnm7Ud

ปัญหาเพศหญิง

สุขภาพเพศหญิง