กิน ฉีด ฝัง วิธีคุมกำเนิดแบบไหนดี? แนะนำวิธีการใช้ยาคุมกำเนิด

กิน ฉีด ฝัง วิธีคุมกำเนิดแบบไหนดี? แนะนำวิธีการใช้ยาคุมกำเนิด

30 พฤษภาคม 2023

Share on

กินยาคุม ฉีดยาคุม ฝังยาคุม วิธีคุมกำเนิดแบบไหนดี? รวมข้อดีและผลข้างเคียงจากการใช้ยาคุมกำเนิดแบบต่าง ๆ

วิธีคุมกำเนิดแบบไหน ที่เหมาะกับเรา และแบบไหนดีที่เหมาะสำหรับสาว ๆ ? วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับวิธีคุมกำเนิดแบบต่าง ๆ ซึ่งแต่ละแบบก็มีทั้งข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไป

วิธีคุมกำเนิดคืออะไร

การคุมกำเนิด หรือ Contraception คือ การป้องกันการตั้งครรภ์ เป็นกลไกที่ทำให้เชื้อสเปิร์มหรืออสุจิของเพศชาย ไม่สามารถเข้าไปผสมกับไข่ ของเพศหญิงได้ ซึ่งวิธีคุมกำเนิดก็มีหลายรูปแบบ เช่น การกินยาคุมกำเนิด ฉีดยาคุมกำเนิด และฝังคุมกำเนิด เป็นต้น


วิธีคุมกำเนิดแบบไหนดี? ประเภทของการคุมกำเนิดมีอะไรบ้าง

แล้วการคุมแบบไหนที่เหมาะกับสาว ๆ กันบ้าง โดยทั่วไปประเภทของการคุมกำเนิดที่เป็นที่นิยมมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ นั่นคือ การกินยาคุม ฉีดยาคุม และฝังยาคุม ซึ่งแต่ละแบบก็มีวิธีการคุมกำเนิดแตกต่างกันออกไป

  1. กินยาคุมกำเนิด คือ การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด ซึ่งมีส่วนประกอบของฮอร์โมน เอสโตรเจนและโปรเจสติน ซึ่งจะช่วยยับยั้งการตกไข่และทำให้อสุจิเคลื่อนที่ยากขึ้น หลัก ๆ แล้วในหนึ่งแผงจะมี 28 เม็ด ซึ่ง 7 เม็ดสุดท้ายจะเป็นแป้งหรือวิตามินเพื่อให้เรากินกันลืมการกินยาในครั้งถัดไป
  2. ฉีดยาคุมกำเนิด คือ การ​ฉีดยาเข้ากล้ามเนื้อของผู้หญิง เพื่อขับฮอร์โมนให้คุมกำเนิด แต่เป็นการคุมกำเนิดแบบชั่วคราวเท่านั้น
  3. การฝังยาคุมกำเนิด คือ การคุมกำเนิดแบบชั่วคราวเช่นกัน เป็นอีกวิธีที่เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่สาว ๆ โดยวิธีการจะนำหลอดบรรจุฮอร์โมนเข้าไปฝังบริเวณใต้ท้องแขน สามารถคุมกำเนิดได้นานถึง 3-5 ปี เป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์สูง


ข้อดี ข้อเสียการคุมกำเนิดแบบต่าง ๆ

หลังจากที่เราไปทำความรู้จักกับการคุมกำเนิดแบบต่าง ๆ กันแล้ว เรามาดูกันต่อว่า การคุมกำเนิดแต่ละแบบมีข้อดี และข้อเสียอะไรบ้าง เพื่อไปประกอบการตัดสินใจให้กับสาว ๆ ที่กำลังจะหาวิธีคุมกำเนิดให้เหมาะสมกับตนเองกัน

1. กินยาคุมกำเนิด 

ข้อดี: ง่าย และสะดวก ช่วยบรรเทาอาการปวดของประจำเดือนได้ดีด้วย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบวิธีคุมกำเนิดรูปแบบอื่น ๆ ที่ต้องฝัง หรือฉีดเข้าสู่ร่างกาย

ข้อเสีย: ต้องทานเป็นประจำทุกวัน และอาจเกิดผลข้างเคียงกับคนบางกลุ่ม เช่น อาการปวดศีรษะ อารมณ์แปรปรวน น้ำหนักขึ้น เป็นต้น

2. ฉีดยาคุมกำเนิด

ข้อดี: ขั้นตอนง่าย ทำได้รวดเร็ว แค่ไปฉีดตามครบกำหนดที่แพทย์นัดไว้ ช่วยคุมกำเนิดได้นาน แม้จะเป็นการคุมกำเนิดชั่วคราว 

ข้อเสีย: อาจมีอาการอื่น ๆ แทรกซ้อน เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ คลื่นไส้ ปวดท้อง และปวดศีรษะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายแต่ละบุคคลด้วย

3. การฝังยาคุมกำเนิด

ข้อดี: เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพดี สามารถคุมกำเนิดได้นานถึง 3-5 ปี และถอดออกได้ตามต้องการ 

ข้อเสีย: ต้องฝังยาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในสถานพยาบาลเท่านั้น และมีผลข้างเคียง เช่น ปวดศีรษะ เจ็บหน้าอก หรือน้ำหนักขึ้น

ทางเรามีข้อแนะนำให้ทุกคนที่กำลังคิดจะคุมกำเนิดควรปฏิบัติตัวตามนี้ เพื่อให้การคุมกำเนิดเปิดผลดีที่สุด เช่น งดสูบบุหรี่ เพราะช่วยลดการเกิดโรคลิ่มเลือดอุดตันในหลอดลม

เนื่องจากยาคุมกำเนิดส่วนใหญ่มักมีสารหรือฮอร์โมนที่จะเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดอุดตัน นอกจากนี้ควรออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง

ประโยชน์ของการคุมกำเนิด


  1. ช่วยให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เนื่องจากยาคุมมีส่วนกระตุ้นฮอร์โมน ทำให้ประจำเดือนมาเป็นประจำ และยังช่วยลดปริมาณประจำเดือนที่มามากเป็นปกติ
  2. ช่วยเรื่องผิวพรรณ ช่วยลดผิวมัน ลดสิว ได้ในอีกทาง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนรับประทานยาคุมกำเนิด
  3. ช่วยลดอัตราการตั้งครรภ์ภายนอกมดลูก ซึ่งเพศหญิงสามารถเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ได้ หากไม่ได้คุมกำเนิดอย่างถูกวิธี
  4. ช่วยลดอัตราการเกิดโรคมะเร็งบางชนิด เช่น โรคมะเร็งรังไข่ มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น

คุยเรื่องคุมกำเนิด แบบไม่เขินอาย กับ Talk to PEACH

Talk to PEACH Promo Code

วิธีคุมกำเนิดแบบไหน ที่เหมาะกับตัวเรา ไขข้อสงสัยทุกปัญหา ปรึกษาได้ที่  Talk to PEACH เราพร้อมให้คำปรึกษาโดยนักเพศวิทยาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ

สามารถปรึกษาเรื่องการคุมกำเนิดได้ในทุกแง่มุมแบบไม่ต้องเปิดเผยตัวตน หรือแม้แต่การปรึกษาเรื่องเพศอื่น ๆ ให้ทุกคนเข้ารับคำแนะนำดี ๆ ได้ทันที 

หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk To PEACH: http://bit.ly/417az7i  

อ้างอิง :