16 กันยายน 2024
การตรวจภายใน (Pelvic Exam) เป็นหัตถการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาวะทางเพศของผู้มีเพศกำเนิดหญิงโดยตรง แต่หลาย ๆ คนอาจจะกังวลและมีคำถามว่าตรวจภายในเจ็บไหม น่าอายหรือเปล่า หรือ ไม่เคยเพศสัมพันธ์ ตรวจภายในได้ไหม จะเจ็บมากไหม? เหตุผลเหล่านี้อาจทำให้ใครหลายคนกลัวและไม่กล้าไปตรวจภายใน
.
บทความนี้ Talk to PEACH เลย ชวนมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการตรวจภายใน ว่าต้องตรวจอะไรบ้าง ตรวจยังไง เจ็บหรือไม่ น่ากลัวหรือเปล่า แล้วต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน
การตรวจภายใน คือ การตรวจสุขภาพทางเพศของผู้หญิง เพราะอวัยวะสืบพันธุ์ของเพศหญิงนั้นอยู่ภายในร่างกาย ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก หากเกิดความผิดปกติอะไรขึ้นมาก็จะไม่สามารถทราบได้เลย การตรวจภายในจึงเป็นวิธีการป้องกันความเสี่ยงและช่วยคัดกรองความผิดปกติเกี่ยวกับโรคทางระบบสืบพันธุ์หรือโรคทางนรีเวชได้
การตรวจภายในเป็นวิธีการวินิจฉัยและคัดกรองโรคทางนรีเวช หรือ โรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิง อย่าง อาการผิดปกติบางอย่าง เช่น ปวดท้องประจำเดือนรุนแรง ประจำเดือนช้า มาไม่สม่ำเสมอ ปวดบริเวณท้องน้อย ปวดหน่วงบริเวณอุ้งเชิงกราน ไปจนถึงมีอาการตกขาว และความผิดปกติอื่น ๆ หากเกิดอาการความผิดปกติเหล่านี้ขึ้นสูตินรีแพทย์จะทำการตรวจภายในเพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุของโรคนำไปสู่การวางแผนการรักษาต่อไป
.
นอกจากนี้ การตรวจภายในยังช่วยป้องกันความเสี่ยงของโรคที่อาจลุกลาม เพราะโรคทางนรีเวช หรือ โรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์ของเพศหญิงนั้นบางโรคเป็นภัยเงียบที่ไม่มีอาการแสดงบ่งชี้ให้เห็นรอยโรคอย่างโรคถุงน้ำในรังไข่ มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ เป็นต้น มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่อาการของโรคลุกลามไปแล้ว
ดังนั้น การตรวจภายในจะช่วยให้เราทราบว่าอวัยวะในระบบสืบพันธุ์นั้นปกติหรือไม่ปกติอย่างไร หากเกิดความผิดปกติอะไรขึ้นจะได้รักษาอย่างทันท่วงทีและป้องกันการแพร่กระจายของโรคได้
แล้วการตรวจภายในนั้นตรวจอะไรบ้าง? การตรวจภายในจะเป็นการตรวจที่ครอบคลุมอวัยวะสืบพันธุ์ ทั้งภายนอกและภายใน รวมไปถึงอวัยวะในอุ้งเชิงกรานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นช่องคลอด ท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ ปากมดลูก มดลูก รังไข่ ท่อนำไข่ ไปจนถึงทวารหนัก เรียกได้ว่าตรวจอย่างครอบคลุมในทุกจุด เพื่อหารอยโรคและความผิดปกติต่าง ๆ โดยละเอียด
วิธีการตรวจภายใน ตรวจยังไง และตรวจแบบไหนนั้นหลัก ๆ เลยสูตินรีแพทย์จะตรวจในสองรูปแบบ
แพทย์จะตรวจภายนอกด้วยสายตาเพื่อดูว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับอวัยวะเพศภายนอกหรือไม่ เช่น รอยบวมแดง ผดผื่น หรือ อาการอักเสบระคายเคืองอื่นใดที่ปรากฏ
หลังจากที่ตรวจดูความผิดปกติภายนอกด้วยสายตาแล้ว ต่อไปแพทย์จะตรวจหาความผิดปกติภายในช่องคลอด เริ่มจากตรวจด้วยมือโดยแพทย์จะสอดนิ้วมือเข้าไปตรวจภายในช่องคลอด และอาจจะใช้อีกมือหนึ่งคลำสัมผัสบริเวณท้องน้อยไปด้วย เพื่อตรวจขนาดของมดลูกและรังไข่
นอกจากนั้น แพทย์อาจจะใช้เครื่องมือพิเศษที่เรียกว่าสเปกคูลัม (speculum) หรือคีมปากเป็ดสอดเข้าไปเพื่อเปิดขยายช่องคลอดเพื่อตรวจดูปากมดลูกและมดลูก
.
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นการตรวจหาความผิดปกติด้วยสายตา แน่นอนว่าบางทีอาจจะไม่เห็นรอยโรค ในการตรวจภายในทุกครั้งจึงมีการเก็บตัวอย่างเซลล์จากปากมดลูกและมดลูกไปตรวจหาความผิดปกติที่ห้องปฏิบัติการ หรือ ที่เรียกกันว่าการตรวจแปปเสมียร์ (pap smear) เพื่อคัดกรองมะเร็งปากมดลูกและเชื้อไวรัส HPV โดยจะใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน หรือไม่เกินหนึ่งสัปดาห์ในการทราบผลตรวจ
ผู้มีเพศกำเนิดหญิงทุกคนควรจะเข้ารับการตรวจภายในร่วมกับการตรวจสุขภาพประจำปีอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง และควรตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกหรือตรวจแปปเสมียร์ทุก 2-3 ปี
เรื่องที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนมักกลัวเกี่ยวกับการตรวจภายในเพราะกังวลว่าตรวจภายในเจ็บไหม จริง ๆ แล้วการตรวจภายในไม่ได้เจ็บเลย แต่ว่าจะเกิดความรู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวในระหว่างตรวจเล็กน้อย โดยแพทย์จะในการตรวจประมาณ 15-30 นาที แนะนำว่าให้ทำใจให้สบายและผ่อนคลายร่างกายให้มากที่สุดระหว่างตรวจ จะช่วยลดการหดเกร็งของกล้ามเนื้อในระหว่างตรวจภายในได้
เครื่องมือที่ใช้ตรวจภายในนั้นแพทย์จะเลือกขนาดที่เหมาะสมกับสรีระร่างกายของคนไข้แต่ละรายไป ไม่ว่าจะเคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาก่อนหรือไม่เคยก็ตามสามารถตรวจได้ ซึ่งถ้าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน แพทย์จะเลือกใช้เครื่องมือที่ขนาดเล็กที่สุด ดังนั้น คนที่ไม่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์แล้วกังวลว่าตรวจภายในเจ็บไหมให้สบายใจตรงนี้ได้เลย
ในการตรวจภายในทุกครั้งแพทย์จะใช้เจลหล่อลื่นร่วมด้วยเสมอ ดังนั้น คนที่มีปัญหาช่องคลอดแห้งและขาดน้ำหล่อลื่นตามธรรมชาติไม่ต้องกังวลว่า เวลาตรวจภายในเจ็บไหม เพราะมีเจลหล่อลื่นช่วยในระหว่างการตรวจ สามารถตรวจได้ตามปกติ
ตามคำแนะนำของแพทย์ เพศหญิงที่อายุ 30 ปีขึ้นไปควรได้รับการตรวจภายในอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ไม่ต้องรอให้มีอาการหรือเกิดความผิดปกติขึ้นก่อนแล้วค่อยตรวจ
.
สามารถตรวจร่วมกับการตรวจสุขภาพประจำปีได้เลย ส่วนในกรณีของผู้ที่เคยผ่านการมีเพศสัมพันธ์มาแล้วก็สามารถเข้ารับการตรวจภายในได้เลยไม่ต้องรอให้ถึงอายุ 30 ปี
ราคาการตรวจภายในจะอยู่ที่ประมาณ 1,000-5,000 บาท ขึ้นอยู่ว่ามีการตรวจพิเศษทางห้องปฏิบัติการเพิ่มหรือไม่ ทั้งนี้ ยังขึ้นอยู่กับค่าบริการของแต่ละโรงพยาบาลและคลินิกต่าง ๆ อีกด้วย
การตรวจภายในเป็นการคัดกรองความเสี่ยงของโรคทางนรีเวช ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดโรคหรือความผิดปกติขึ้นก่อน สามารถเข้ารับการตรวจได้เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันความเสี่ยงการเกิดโรค ส่วนคนที่มีสัญญาณเตือนถึงความผิดปกติยิ่งควรรีบตรวจภายในเพื่อตรวจเช็กที่มาของความผิดปกติในระบบสืบพันธ์ุ จะได้ลดความเสี่ยงของการลุกลามของโรคและหาทางรักษาที่ถูกต้องได้อย่างทันท่วงที
.
สามารถปรึกษาเรื่องทางเพศ รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับเพศได้อย่างสบายใจในทุก ๆ แง่มุม ไม่ต้องเปิดเผยชื่อ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน สามารถรับคำปรึกษาได้ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk to PEACH: https://oci.ltd/VteMHjR
อ้างอิง:
ปัญหาเพศหญิง