28 มิถุนายน 2023
การเทคฮอร์โมนในกลุ่มคนข้ามเพศหรือ (Transgender) คือการรับประทานหรือนำฮอร์โมนเพศที่ต้องการเข้าร่างกาย เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสรีระตามเพศที่บุคคลนั้นต้องการ
แม้ว่าการเทคฮอร์โมนนั้นจะแตกต่างจากการรับประทานยาเพราะไม่ได้มีผลต่อการรักษาโรคชนิดใด แต่ก่อนจะทำการเทคฮอร์โมนนั้นเราควรศึกษาข้อมูลและเตรียมพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจก่อนการตัดสินใจ
เราจะมาพูดคุยในเรื่องการเทคฮอร์โมนอย่างไรให้ปลอดภัยไม่ทำลายสุขภาพ
เมื่อพูดถึงการเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพหรือการแปลงเพศของกลุ่มคนข้ามเพศ (Transgender) วิธีที่หลายคนนึกถึงมักได้แก่ การผ่าตัดแปลงเพศ และการบำบัดด้วยฮอร์โมนเพื่อการข้ามเพศ (Gender-affirming hormone therapy) หรือที่นิยมเรียกกันสั้น ๆ ว่า “เทคฮอร์โมน” เพราะการเทคฮอร์โมนเป็นหนึ่งวิธีการแปลงเพศนอกเหนือจากการผ่าตัด ไม่ต้องเจ็บตัว
เนื่องจากเป็นการใช้ฮอร์โมนบำบัดเพื่อการข้ามเพศ ซึ่งสรีระจะปรับเปลี่ยนไปตามฮอร์โมนเพศที่ใช้หลังจากเทคฮอร์โมนเพศอย่างถูกวิธีต่อเนื่องอย่างน้อย 3 เดือนขึ้นไป โดยก่อนจะเทคฮอร์โมนได้นั้นจะต้องมีขั้นตอนดังต่อไปนี้
ใช้ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) หรือ เทสโทสเตอโรน (Testosterrone) เพื่อเปลี่ยนแปลงสรีระของหญิงให้เป็นชายนั้น
ปัจจุบันมีหลายรูปแบบ ได้แก่ แบบทา แบบรับประทาน แบบฉีด และแบบพลาสเตอร์ เพื่อกระตุ้น หรือเสริมฤทธิ์ฮอร์โมนเพศชาย
อิทธิพลของฮอร์โมนเพศชายจะกระตุ้นให้มีการเปลี่ยนแปลงทางสรีระคล้ายเพศชายมากขึ้น เช่น มีหนวดเครา มีกล้ามเนื้อ เสียงใหญ่ขึ้น
นอกจากนี้ยังลดทอน หรือกำจัดฮอร์โมนเพศที่มีอยู่เดิม ฮอร์โมนเพศชายจะลดประสิทธิภาพการทำงานของรังไข่ซึ่งเป็นแหล่งผลิตฮอร์โมนเพศหญิง ทำให้รังไข่ผลิตไข่น้อยลง ประจำเดือนจะเริ่มขาดและค่อย ๆ หายไป
แพทย์จะให้ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) เช่น 17-beta estradiol หรือ Estradiol valerate เพื่อเพิ่มระดับฮอร์โมนเพศหญิงให้สูงขึ้น ร่วมกับให้ยาฮอร์โมนต้านฤทธิ์แอนโดรเจน (Anti-androgen) เช่น Cyproterone acetate, Spironolactone หรือ Finasteride เพื่อลดระดับฮอร์โมนเพศชายลง และขจัดลักษณะที่บ่งบอกถึงเพศกำเนิดออก เช่น ขน หนวดเครา ทำให้ร่างกายเติบโตไปในลักษณะของผู้หญิง
หลังจากที่เทคฮอร์โมนเพศหญิงหรือชายตามปริมาณที่แพทย์แนะนำอย่างต่อเนื่อง จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ โดยจะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงหลังเทคฮอร์โมน 3-6 เดือน และเห็นผลเต็มที่หลังจากที่เทคฮอร์โมนไปแล้ว 2-3 ปี
การเทคฮอร์โมนอย่างปลอดภัยจะต้องใช้ฮอร์โมนในขนาดที่เหมาะสม เพราะยาฮอร์โมนที่ใช้นั้นถูกสังเคราะห์ให้มีความคล้ายคลึงกับฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งยาทุกชนิดนั้นอาจมีผลข้างเคียง
ในการเทคฮอร์โมนจึงอาจมีผลข้างเคียงเช่นกัน เช่น ผมบางลง น้ำหนักขึ้น ปวดศีรษะ อารมณ์แปรปรวน และบางรายอาจมีผลข้างเคียงในระดับที่รุนแรงได้
ผลข้างเคียงที่รุนแรงจากยาฮอร์โมนเอสโตรเจน มีดังนี้
ผลข้างเคียงที่รุนแรงจากยาฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน คือโรคเลือดข้น (Polycythemia)
เพศของเรา เราทุกคนมีสิทธิที่จะเลือกด้วยความสมัครใจของเราเอง ดังนั้น การเทคฮอร์โมนจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง เพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่เพศที่ต้องการของใครหลาย ๆ คน
หากมีข้อสอบถามเกี่ยวกับการเทคฮอร์โมนเพื่อข้ามเพศอย่างปลอดภัย เราพร้อมพูดคุยและเป็นที่ปรึกษา ด้วยการปรึกษาเรื่องสุขภาพเพศกับนักเพศวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านเพศจาก Talk to PEACH โดยเราพร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้คุณปรึกษาทุกแง่มุมของเรื่องเพศได้แบบไม่ต้องเปิดเผยตัวตน
สามารถพูดคุยได้ทั้งผ่านวิดีโอคอล และแชทถาม-ตอบผ่านแอป Talk to PEACH หรือ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk To PEACH: http://bit.ly/417az7i
อ้างอิง:
ปัญหา LGBTQ+
สุขภาพเพศทางกาย