24 กรกฎาคม 2023
พอวันแดงเดือนใกล้เข้ามาทีไร สาว ๆ หลายคนคงเตรียมใจแล้วว่าจะต้องปวดท้องเมนส์ เพราะคิดว่าเป็นเรื่องธรรมชาติที่ใคร ๆ ก็ต้องเผชิญ
แต่ในความเป็นจริงแล้วมีวิธีช่วยบรรเทาอาการปวดท้องประจำเดือนที่ได้ผลจริง ให้ทุกคนไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไป
วันนี้เราจะพามาไขข้อข้องใจกันว่าวิธีบรรเทาอาการปวดท้องตอนเมนส์มามีอะไรบ้าง และการปวดท้องมีกี่ระดับ แบบไหนที่อันตราย มาเริ่มกันเลย
โดยทั่วไปสาว ๆ มักปวดท้องเมนส์ก่อนมีประจำเดือน 1 – 2 วัน บ้างก็ปวดหน่วง ๆ บ้างก็ปวดขั้นรุนแรง แถมมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ท้องเสีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ปวดหลังส่วนล่าง เป็นต้น ซึ่งสาเหตุหลักของอาการปวด ก็คือ สารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ที่ก่อขึ้นบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมน ส่งผลให้กล้ามเนื้อบีบตัวคล้ายคลึงกับการคลอดลูก ส่วนระดับของการปวดท้องประจำเดือนจะมีระดับไหนบ้าง มาเช็กกันเลย
การปวดท้องเมนส์ระดับปฐมภูมิสามารถพบได้ทั่วไป โดยมีสาเหตุมาจากการผลิตโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) มากเกินไปนั่นเอง
ปวดท้องเมนส์รุนแรงระดับทุติยภูมิมักเกิดจากความผิดปกติของอวัยวะสืบพันธุ์ ยกตัวอย่างเช่น เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ในบริเวณชั้นกล้ามเนื้อมดลูก บริเวณรังไข่ และเยื่อบุอุ้งเชิงกราน
ความทรมานในช่วงปวดท้องเมนส์นั้นมากเกินกว่าจะพรรณนา บางคนอาจปวดท้องเมนส์จนนอนไม่ได้และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันรวมถึงการทำงาน แต่ไม่ต้องกังวลไป เราจะพามาเจาะลึกประเด็นปวดท้องเมนส์ ทํายังไงให้อาการดีขึ้น พร้อมแล้วมาดูกันเลย
ปวดท้องเมนส์วิธีแก้ข้อแรกที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ คือ การประคบร้อน วิธีนี้หลายคนคงคุ้นหูกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพียงนำแผ่นแปะแก้ปวดท้องประจำเดือนสูตรร้อนมาติดไว้ หรือใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนมาประคบทิ้งไว้ จะรู้สึกดีขึ้น ซึ่งงานวิจัยเผยว่าวิธีการนี้ได้ผลดีไม่แพ้การกินยาแก้ปวดเลยทีเดียว
โดยสามารถเริ่มใช้แผ่นแปะแก้ปวดท้องประจำเดือนสูตรร้อน หรือใช้กระเป๋าน้ำร้อนหรือผ้าขนหนูชุบน้ำร้อน มาประคบไว้ตั้งแต่ก่อนประจำเดือนมาได้เลย เนื่องจากสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้
การประคบร้อนช่วยปรับให้ร่างกายภายนอกอุ่นขึ้น แต่การดื่มน้ำอุ่น 6 – 8 แก้วต่อวันจะช่วยให้ภายในร่างกาย มีระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ลดอาการท้องอืดได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามไม่ควรดื่มชาหรือกาแฟเพราะมีคาเฟอีนที่มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ อาจทำให้ปวดท้องเมนส์ได้
แมกนีเซียมมีส่วนช่วยคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเกร็งในช่องท้องได้ ดังนั้น หากไม่ต้องการพึ่งยา ผักผลไม้ก็ช่วยได้เป็นอย่างดี เช่น กล้วย ผักโขม ตำลึงและผักปวยเล้ง
สาว ๆ หลายคนอาจเลี่ยงการออกกำลังกาย เพราะร่างกายที่อ่อนเพลีย แต่ที่จริงแล้ว ทุกคนสามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้ตามความแข็งแรงของแต่ละคน เช่น การเดิน วิ่งจ๊อกกิ้ง หรือเล่นโยคะในท่าที่สบาย ๆ เมื่อออกกำลังกายสมองจะหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุข ช่วยคลายเครียดและบรรเทาปวดอย่าง เอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) ออกมา
หากปวดท้องเมนส์มาก การนวดคลึงเบา ๆ เป็นวงกลมบริเวณท้องน้อยจะช่วยให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องคลายกล้ามเนื้อ ลดการตึงและอาการปวดลงได้เป็นอย่างดี
การลดอาหารไขมันสูงที่ย่อยยาก แล้วหันมาเพิ่มการกินผักประเภทต้านการอักเสบ (Anti-inflammatory) อย่าง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ พริกหยวก จะช่วยบรรเทาอาการปวด แถมอุดมไปด้วยวิตามินที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกเพียบ
หากถามว่าปวดท้องเมนส์ กินยาอะไร ต้องเป็นกลุ่มยาต้านการอักเสบชนิดไร้สเตียรอยด์ (NSAIDs) ควรเลือกกินเฉพาะตอนที่ปวดอย่างรุนแรงเท่านั้น เพราะตัวยาอาจมีผลข้างเคียง โดยก่อนรับประทานยาชนิดดังกล่าวต้องปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง
แน่นอนว่าระหว่างที่เรานอนหลับ ร่างกายจะคอยซ่อมแซมตัวเอง แถมลดความตึงเครียดทั้งทางกายและสมอง ดังนั้นควรนอนพักผ่อนอย่างน้อย 6 ชั่วโมง/วัน
อีกหนึ่งวิธีรับมือกับอาการปวดท้องเมนส์ คือ การฝังเข็มกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต กระตุ้นให้การทำงานส่วนต่าง ๆ ของร่างกายดีขึ้น และมดลูกคลายตัว จึงช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน
สำหรับข้อต่อมา การดื่มน้ำขิง 1 – 2 แก้วต่อวันสามารถลดการหลั่งของโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) อันเป็นต้นตอของการปวดประจำเดือนได้
นอกจากอาการปวดท้องเมนส์แล้ว การบันทึกและคำนวณรอบเดือน ด้วย Period Tracker ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะทำให้สาว ๆ รู้เท่าทันความผิดปกติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือนด้วย ลองใช้ Period Tracker ได้แล้ววันนี้ ฟรี! ที่แอปฯ Talk to PEACH
ปัญหาเพศหญิง
สุขภาพเพศทางกาย