24 กรกฎาคม 2023
ช่วงที่สาว ๆ มีประจำเดือนนอกจากจะเกิดความไม่สบายตัวแล้ว บางครั้งอาจไม่สบายใจไปด้วยเพราะมีปัญหาเมนส์เป็นก้อน ประจำเดือนเป็นลิ่ม ซึ่งลักษณะของเลือดประจำเดือนสามารถบอกได้ว่าสุขภาพของสาว ๆ ดีหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นสัญญาณของบางโรคร้ายด้วย
แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไปกันใหญ่ วันนี้ ‘Talk to PEACH’ จะพามาทำความเข้าใจว่าก้อนประจำเดือนนั้นเกิดจากสาหตุใด แล้วอาการแบบไหนที่อันตราย มาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย
ปัญหาเมนส์เป็นก้อน ประจำเดือนเป็นลิ่ม เกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ การใช้ยาบางชนิด ร่างกายขาดธาตุเหล็ก ปัญหาวัยท้อง นอกจากนี้ยังสื่อถึงโรคบางชนิด โดยปกติแล้วเลือดประจำเดือนจะมีสีแดงเข้ม และมีลักษณะเป็นของเหลวข้น ๆ
บ้างเคสก็อาจเหมือนเกล็ดเลือดขนาดเล็กที่กระจายตัว หรือขนาดใหญ่ขึ้นจนเป็นลักษณะของประจำเดือนเป็นก้อนหรือที่เรียกว่า ‘ลิ่มเลือด’ นั่นเอง ซึ่งร่างกายสร้างขึ้นเพื่อป้องกันการเสียเลือดมากเกินไป ขนาดปกติจะอยู่ที่ 5 มิลลิเมตร แต่ไม่เกิน 4 เซนติเมตร มาดูกันดีกว่าว่าปัญหามีก้อนประจำเดือน เกิดจากสาเหตุเหล่านี้ได้อย่างไร
.
ในยารักษาโรคบางประเภท อย่าง สเตียรอยด์ จะส่งผลต่อระบบฮอร์โมน ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกหนาขึ้นกว่าปกติและประจำเดือนมามาก อย่างไรก็ตามอาการจะดีขึ้นเองเมื่อเวลาผ่านไป
.
ร่างกายขาดธาตุเหล็กในช่วงมีประจำเดือนถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งส่งผลให้ประจำเดือนเป็นก้อน แถมเป็นต้นตอของโรคโลหิตจางอีกด้วย ดังนั้น สาว ๆ จึงควรรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน เช่น เนื้อสัตว์ ถั่วเปลือกแข็ง และไข่ไก่ เป็นต้น
.
วัยใกล้หมดประจำเดือน อายุระหว่าง 40 – 50 ปี มีโอกาสเกิดเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ ซึ่งอาการจะมีตั้งแต่การปวดท้องประจำเดือนอย่างรุนแรง ปริมาณประจำเดือนเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ จนสะสมอยู่ในช่องคลอดและท้ายที่สุดจะจับตัวกันเป็นลิ่มเลือด ทำให้ผู้หญิงในวัยนี้มีปัญหาเมนส์เป็นก้อน ประจำเดือนเป็นลิ่ม
.
สาเหตุข้อต่อมาของการเกิดเมนส์เป็นก้อนก็คือ โรคทางนรีเวช เช่น เนื้องอกในมดลูก และรังไข่มีถุงน้ำหลายใบ (Polycystic Ovary Syndrome : PCOS) ซึ่งเป็นโรคที่ส่งผลให้ฮอร์โมนเพศหญิงแปรปรวน มีประจำเดือนมากกว่าปกติและอาจเกิดเป็นลิ่มเลือดด้วย
ประจำเดือนที่มีลักษณะเป็นก้อนอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้หญิงหลายคน แต่บางครั้งอาจเป็นสัญญาณเตือนเกี่ยวกับสุขภาพได้เช่นกัน การรู้จักและสังเกตลักษณะของก้อนเลือดประจำเดือนจะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้ว่าควรปรึกษาแพทย์หรือไม่
1. ขนาดของก้อนเลือด ก้อนเลือดใหญ่เกินไป หากก้อนเลือดมีขนาดใหญ่กว่าเหรียญ 10 บาท ควรระวัง เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพ เช่น ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกหนาตัวหรือโรคเนื้องอกในมดลูก
2. ปริมาณของก้อนเลือด มีปริมาณก้อนเลือดมาก หากมีการเกิดก้อนเลือดบ่อยครั้งในระหว่างประจำเดือนและมีปริมาณมาก อาจเป็นสัญญาณของการตกไข่ผิดปกติหรือภาวะเลือดออกผิดปกติ
3. สีของก้อนเลือด สีดำหรือสีคล้ำ หากก้อนเลือดมีสีดำหรือสีคล้ำมาก อาจเป็นสัญญาณของการเกิดการอุดตันในระบบการไหลเวียนเลือด
4. อาการปวดท้องรุนแรง หากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงร่วมกับการมีก้อนเลือด อาจเป็นสัญญาณของภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) หรือโรคอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์
5. ระยะเวลาของประจำเดือนนานเกินไป หากมีการมีประจำเดือนนานกว่า 7 วันและมีก้อนเลือด อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ต้องการการตรวจวินิจฉัยแรง หากมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรงร่วมกับการมีก้อนเลือด อาจเป็นสัญญาณของภาวะก้อนเนื้อในมดลูกและเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
สำหรับการมีเมนส์เป็นก้อน ประจำเดือนเป็นลิ่ม เป็นกลไกปกติของร่างกาย แต่ต้องคอยสังเกตความผิดปกติ เช่น ลิ่มเลือดมีเส้นผ่าศูนย์กลางเกินกว่า 2 เซนติเมตร และมีเลือดประจำเดือนออกมาผิดปกติจนต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1 – 2 ชั่วโมง มีกลิ่นผิดปกติ หรือปวดท้องรุนแรง นอกจากนี้ แนะนำให้เลือกตรวจภายในเป็นประจำปีละ 1 ครั้งร่วมด้วย
แล้วสัญญาณอันตรายรูปแบบใดที่ไม่ควรละเลยบ้าง มาเช็กกันเลย
.
สำหรับสัญญาณอันตรายแรกที่มากับการมีประจำเดือนเป็นก้อน คือ เยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ หรือ ช็อกโกแลตซีสต์ โดยจะมีอาการปวดประจำเดือนรุนแรงขึ้นทุกเดือนร่วมด้วย หากมีเพศสัมพันธ์จะเจ็บลึก ๆ บริเวณท้องน้อยหรือช่องคลอดมากขึ้น
.
สำหรับอาการเนื้องอกมดลูก จะมีประจำเดือนปริมาณมากและมานานในแต่ละครั้ง แถมมีก้อนเลือดปนออกมาขนากใหญ่ผิดปกติ ผู้ป่วยมักปวดประจำเดือนรุนแรง หรือบางครั้งมีอาการปวดขณะที่ไม่ได้เป็นประจำเดือน ทั้งนี้ เนื้องอกมดลูกหากปล่อยไว้นานอาจเติบโตขึ้นและกดทับอวัยวะใกล้เคียง จนเกิดอาการหรือโรคแทรกซ้อนอื่นได้
.
เมนส์เป็นก้อน ประจำเดือนเป็นลิ่ม ติดต่อกันนานหลายเดือนถือเป็นหนึ่งในสัญญาณของภาวะถุงน้ำในรังไข่ (PCOS) เนื่องจากภาวะ PCOS มักเกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาประจำเดือนและอาการอื่น ๆ เช่น รอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ประจำเดือนขาด เป็นต้น
.
โรคอุ้งเชิงกรานอักเสบพบได้ในสตรีอายุ 18 ไปจนถึงวัยหมดประจำเดือน โดยสามารถสังเกตอาการได้จากลิ่มเลือดที่สีคล้ายกับเลือดหมูและประจำเดือนมามากผิดปกติ
.
การมีประจำเดือนมากผิดปกติเกินกว่า 7 วันร่วมกับการมีก้อนเลือดขนาดใหญ่ไหลออกมา และมีอาการข้างเคียง เช่น หน้ามืด หน้าซีด เป็นลม อาจเกิดจากโรคอันตราย เช่น ระบบการแข็งตัวของเลือด ก้อนเนื้อในมดลูกและเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่
นอกจากการสังเกตลักษณะของประจำเดือนแล้ว การบันทึกและคำนวณรอบเดือนด้วย Period Tracker ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะจะทำให้สาว ๆ รู้เท่าทันความผิดปกติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับประจำเดือนด้วย ลองใช้ Period Tracker ได้แล้ววันนี้ ฟรี! ที่แอปฯ Talk to PEACH
อาการประเดือนมาผิดปกติ ไม่ว่าจะมาเป็นก้อน ประเดือนไม่มาหลายเดือน หรือมามากเกินไป ปัญหาเหล่านี้สามารถปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญที่ Talk To Peach : แอปปรึกษาปัญหาเรื่องสุขภาพเพศกับนักเพศวิทยา เพื่อให้คุณได้รับคำแนะนำที่เหมาะสมพร้อมวิธีแก้ปัญหาสุขภาพเพศ ผ่านวิดีโอคอล และแชทถาม-ตอบผ่านแอป Talk to PEACH หรือ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk To PEACH: https://oci.ltd/LwQW5
ปัญหาเพศหญิง
สุขภาพเพศทางกาย