05 กันยายน 2024
ปัญหาสุขภาพทางเพศของผู้ชายมีหลายอย่าง แต่หนึ่งในปัญหาที่พบบ่อย คือปัญหาความผิดปกติเกี่ยวกับอสุจิ น้ำอสุจิน้อย อสุจิเปลี่ยนสี รวมถึงอสุจิ มีเลือดปน ที่เมื่อเกิดขึ้นแล้วอาจทำให้คุณผู้ชายกังวลใจว่าร่างกายมีความผิดปกติหรือเป็นโรคร้ายหรือไม่
.
Talk to PEACH ขอชวนทุกคนมาทำความรู้จักกับอาการนี้กันให้มากขึ้น เพื่อทำความเข้าใจสาเหตุและแนวทางดูแลตัวเองเมื่ออสุจิ มีเลือดกันดีกว่า
อสุจิ มีเลือดปน (Blood in Semen หรือ Hematospermia) เป็นภาวะที่อสุจิเป็นสีแดงจากการมีเลือดออกปะปนมากับน้ำอสุจิ ความเข้มของสีขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน บางครั้งอาจเป็นสีน้ำตาล สีชมพูอ่อน สีแดงสด รวมถึงอาจมีลิ่มเลือดปนมาด้วยก็ได้ เมื่อพบว่ามีเลือดออกจากน้องชายอาจทำให้เกิดความกังวล แต่จริง ๆ แล้วภาวะนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่มักหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา
อสุจิ มีเลือดสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
การอักเสบหรือติดเชื้อเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุดเมื่ออสุจิ มีเลือดปน โดยระบบสืบพันธุ์ส่วนใดส่วนหนึ่งอาจเกิดอักเสบหรือติดเชื้อจนทำให้อสุจิของเรามีเลือดปนออกมา
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายชนิดเป็นสาเหตุของการอักเสบและติดเชื้อจนอาจเกิดภาวะอสุจิเป็นสีแดงจากเลือดที่ปนออกมา
น้องชายที่ได้รับการผ่าตัด ทำหมัน รักษาริดสีดวงทวาร หรือช่วยตัวเองรุนแรงเกินไป เป็นสาเหตุที่ทำให้อสุจิของเรามีเลือดได้เช่นกัน สาเหตุเหล่านี้ทำให้เกิดปัญหาอสุจิเป็นสีแดงแค่ชั่วคราวและสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องกังวล
การไม่ช่วยตัวเองหรือไม่มีเพศสัมพันธ์เป็นเวลานานเป็นอีกหนึ่งสาเหตุทำให้อสุจิเปลี่ยนสี เพราะอาจมีเลือดที่ค้างอยู่ปะปนออกมากับน้ำอสุจิ
น้องชายเป็นบริเวณที่มีหลอดเลือดอยู่มากมาย หากเกิดความผิดปกติกับหลอดเลือดอาจส่งผลให้มีเลือดปนมากับน้ำอสุจิของเราด้วยเช่นกัน เช่น หลอดเลือกฝอยแตก หลอดเลือดอักเสบ ติดเชื้อ หรือท่อฉีดอสุจิอุดตันจนแตก
เป็นสาเหตุที่พบได้น้อยมากแต่การเกิดเนื้องอกบริเวณกระเพาะปัสสาวะหรือต่อมลูกหมากก็อาจทำให้อสุจิมีเลือดได้
แม้อาการอสุจิ มีเลือดปนส่วนใหญ่จะไม่เป็นอันตราย แต่หลายคนอาจสงสัยว่าอสุจิ มีเลือดปน เป็นโรคอะไรหรือเปล่า หากอายุยังน้อยและไม่มีภาวะเสี่ยงอื่น ๆ ก็เบาใจได้ แต่หากเป็นผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไปหรือมีภาวะเสี่ยง เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันหรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ อาจต้องหมั่นสังเกตอาการและสังเกตสัญญาณเตือนของโรค ดังนี้
อัณฑะอักเสบอาจเกิดขึ้นได้จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์บางประเภท เช่น หนองใน รวมถึงการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ ทำให้รู้สึกปวดอัณฑะ แสบขัดเวลาปัสสาวะ อสุจิมีเลือดปนออกมา สามารถเกิดร่วมกับอาการไข้ อ่อนล้า อ่อนเพลีย และคลื่นไส้อาเจียน
เกิดขึ้นได้ทั้งจากการติดเชื้อและแบบที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ อาการที่พบบ่อยคือรู้สึกปวดท้องน้อย ปวดรอบโตนของน้องชาย ปัสสาวะขุ่น มีกลิ่น น้ำอสุจิที่หลั่งมีเลือดปนออกมา เป็นต้น
การเกิดนิ่วในกระเพาะปัสสาวะหรือในไตส่งผลให้ระบบทางเดินปัสสาวะผิดปกติ ก็อาจทำให้อสุจิของเรามีเลือดปนออกมาได้
อาการดังกล่าวไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เองเมื่อดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตามหากเป็นผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป หรือมีภาวะอสุจิมีเลือดพร้อมอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ต่อเนื่องกัน 1 เดือนแล้วยังไม่หาย ควรไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโดยเร็วที่สุดเพราะอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอื่น ๆ ได้
อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า อาการอสุจิมีเลือดปนสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ ด้วยการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม คือ ไม่ช่วยตัวเองหรือมีเพศสัมพันธ์รุนแรงเกินไปเพราะน้องชายอาจอักเสบ ได้รับบาดเจ็บ จนทำให้มีเลือดปนออกมา ที่สำคัญควรสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ด้วยทุกครั้ง หากสังเกตว่าอสุจิที่หลั่งออกมาเป็นสีแดง ควรงดกิจกรรมบนเตียงไปก่อนจนกว่าจะหาย
.
นอกจากนี้ ต้องรู้จักดูแลสุขอนามัยของน้องชายให้สะอาด ควรรูดบริเวณหนังหุ้มลงมาเพื่อทำความสะอาดอย่างหมดจดและเช็ดให้แห้งทุกครั้ง ป้องกันการอักเสบ ติดเชื้อ และการหมักหมมของเชื้อโรคจนนำไปสู่อาการผิดปกติอื่น ๆ ที่สำคัญควรพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติ ลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ
หากเกิดอาการอสุจิ มีเลือด อาการดังกล่าวสามารถหายได้เองโดยใช้เวลาประมาณ 1 – 2 เดือน แต่หากเกิดอาการต่อเนื่องกัน 4 – 5 เดือนขึ้นไปหรือเป็น ๆ หาย ๆ มีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่น รวมถึงมีอายุมากกว่า 40 ปี ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอย่างละเอียดเพราะอาจเป็นอาการของโรคอื่น ๆ ได้
การรักษาภาวะอสุจิมีเลือดขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยและดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนการกินยา อสุจิเป็นเลือด กินยา อะไร แพทย์จะพิจารณาจากสาเหตุ หากเกิดจากการอักเสบและติดเชื้อแพทย์อาจให้กินยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อ หรืออาจกินยาแก้อักเสบ หากเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก็อาจรักษาตามอาการของโรคนั้น ๆ ส่วนในผู้ชายอายุน้อยที่เกิดภาวะนี้เพียง 1 – 2 ครั้งและไม่มีอาการอื่นแทรกซ้อน อาการจะสามารถหายได้เองตามธรรมชาติ
เราสามารถป้องกันการเกิดอสุจิ มีเลือดปนได้ ดังนี้
การทำกิจกรรมบนเตียงอย่างเหมาะสมหมายถึงการสวมถุงยางอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และไม่รุนแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้น้องชายบาดเจ็บ อักเสบ ปวด บวม จนเกิดภาวะมีเลือดปนออกมาเมื่อหลั่งอสุจิได้
ทำความสะอาดน้องชายเป็นประจำ ไม่ปล่อยให้คราบสกปรกหมักหมม และเช็ดให้แห้งทุกครั้งเพื่อป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย
เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาด 8 – 10 แก้วต่อวัน และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อดูแลสุขภาพโดยรวม ป้องกันการเกิดภาวะผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะ และเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อง่าย
หากไม่มีอาการแทรกซ้อนอย่างอื่นสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามสามารถเว้นช่วงการทำกิจกรรมทางเพศสักระยะเพื่อสังเกตร่างกายของตัวเองก่อนก็ได้
.
เมื่อมีเลือดออกจากน้องชายเป็นธรรมดาที่คุณผู้ชายทุกคนจะรู้สึกตกใจเพราะเกิดความผิดปกติขึ้นกับร่างกายของเรา แต่อาการอสุจิ มีเลือดนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ส่วนใหญ่มักไม่รุนแรงและหายได้เอง แต่หากสังเกตตัวเองแล้วมีอาการแทรกซ้อนอื่นร่วมด้วย อายุมากกว่า 40 ปี หรือมีปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความสบายใจและหาแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสมจะดีที่สุด
สามารถปรึกษาเรื่องอสุจิมีเลือดปน สีของอสุจิผิดปกติ หรือ โรคทางเพศกับเราได้ในทุก ๆ แง่มุม ไม่ต้องเปิดเผยชื่อ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน สามารถรับคำปรึกษาได้ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk to PEACH: https://oci.ltd/qfJCNkU
อ้างอิง:
ปัญหาเพศชาย