17 มกราคม 2023
คุณผู้ชายทั้งหลายต่างอยากรู้สึกมั่นใจ เมื่อต้องออกรบบนเตียง โดยเฉพาะผู้ที่ไม่พอใจในขนาดของน้องชายตัวเอง จึงต้องค้นหาสารพัดวิธีเพิ่มขนาดน้องชาย เพื่อสร้างความมั่นใจให้ตัวเอง โดยเฉลี่ยของชายไทยเมื่ออวัยวะเพศแข็งตัวจะอยู่ที่ประมาณ 4 – 5 นิ้ว หากขนาดเล็กกว่า 3 นิ้ว อาจหมายความว่าเล็กผิดปกติ วันนี้ Talk to PEACH จะพามาเช็กกันว่าคุณเหมาะแก่การเพิ่มขนาดหรือไม่? และมีวิธีการเพิ่มขนาดอย่างไร? ให้ปลอดภัยมากที่สุด พร้อมแล้วมาค้นหาคำตอบไปพร้อมกันเลย!
สำหรับใครที่มีความไม่มั่นใจกับขนาดของน้องชายที่ธรรมชาติให้มา อาจจะรู้สึกกังวล จนทำให้ต้องค้นหาวิธีการเพิ่มขนาดน้องชาย ให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งในปัจจุบันก็มีหลากหลายวิธีให้ได้ลองกัน มีทั้งวิธีเพิ่มขนาดน้องชาย แบบธรรมชาติ และวิธีที่เสี่ยงอันตราย ไม่ว่าจะเป็นการฉีดน้ำมันมะกอก การทาโลชัน หรือการทานยาอันตราย ดังนั้น อย่าเพิ่งใจร้อน มาดูกันก่อนว่าเราควรเพิ่มขนาด 56 หรือขนาดน้องชายให้มีขนาดใหญ่ขึ้นหรือไม่? โดยปัจจัยหลักที่ทำให้คุณผู้ชายต้องการเพิ่มขนาดมี 2 ประการ ดังนี้
อย่างไรก็ตาม หากสาเหตุหลักของความต้องการเพิ่มขนาดมาจากเรื่องค่านิยม “ยิ่งใหญ่ยิ่งดี” อย่างเดียว เราอาจจะไม่จำเป็นต้องเพิ่มขนาดอวัยวะเพศชายเสมอไป เพราะงานวิจัยของ Big One Dating เผยให้เห็นแล้วว่าจะขนาด 3” หรือ 5” ก็ทำให้คู่หลับนอนมีความสุขได้ไม่ต่างกันมากนักด้วยตัวเลขเพียง 5% เท่านั้น อีกทั้งสาว ๆ ยังมีการคอนเฟิร์มมาแล้วว่า การเรียนรู้วิธีสร้างความพึงพอใจระหว่างอยู่บนเตียง มีผลให้ผู้หญิงมีความสุขมากกว่าน้องชายขนาดใหญ่
หากมั่นใจแล้วว่าคุณต้องการเพิ่มขนาดน้องชาย เพื่อกอบกู้ความมั่นใจ Talk to PEACH จะพามาไขคำตอบแบบละเอียดว่าทำยังไงให้อวัยเพศใหญ่ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งแบบเห็นผลชั่วคราว-กึ่งถาวร ไปจนถึงชนิดถาวร แต่จะน่าสนใจอย่างไร? มาเรียนรู้ไปพร้อมกันเลย
มาเริ่มกันที่เพิ่มขนาดน้องชายแบบวิธีธรรมชาติ คือการบริหารร่างกาย เนื่องจากเราสามารถเพิ่มขนาดได้ด้วยการออกกำลังกายควบคู่กับการรับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มปริมาณการหมุนเวียนเลือดมากขึ้น จนเกิดการขยายตัวของเนื้อเยื่อบริเวณนั้น
อย่างไรก็ตาม วิธีนี้ก็อาจจะไม่สามารถเห็นผลได้ทันที แต่เราสามารถเร่งวิธีเพิ่มขนาดน้องชาย ได้ด้วยการอาบน้ำอุ่นก่อนเพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของเลือด จากนั้นกำมือรอบอวัยวะเพศจากโคนไปยังปลายใช้เวลา 1 – 2 นาที ประมาณครึ่งชั่วโมง โดยเนื้อเยื่อส่วนที่ทำให้แข็งตัว (Corpora Cavernosa) และเนื้อเยื่อยืดหยุ่น (the Corpus Spongisum) จะมีเลือดไปเลี้ยงมากจนในที่สุดน้องชายจะใหญ่ขึ้น
ข้อควรระวัง : ไม่ควรทำขณะที่น้องชายแข็งตัว และควรใช้เจลหล่อลื่นทาเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ รวมถึงหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เนื่องจากจะทำให้เส้นเลือดใหญ่ในร่างกายจะตีบลงได้
การรับประทานอาหารก็เป็นกุญแจที่สำคัญในการเพิ่มขนาด แถมยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย โดยกลุ่มอาหารที่มีผลต่อการเพิ่มขนาดน้องชาย คือกลุ่มอาหารประเภทโปรตีน สังกะสี วิตามิน B โอเมก้า 3 และแอลอาจีนิน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพอย่าง เห็ดหลินจือ สมุนไพรของจีนที่ลดไขมันในเลือด สร้างภูมิคุ้มกันและช่วยให้เลือดถูกส่งไปเลี้ยงน้องชายมากยิ่งขึ้น
มาต่อกันที่อาหารกลุ่มผลไม้กันบ้าง ผลไม้จำพวกกล้วยก็มีธาตุสำคัญที่ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง แตงโมก็อัดแน่นไปด้วย Citrulline ส่งเสริมระบบหมุนเวียนโลหิตให้ดีขึ้น และสุดท้ายคืออัลมอนด์ แหล่งโปรตีนชั้นดีที่ช่วยเพิ่มสมรรถนะทางเพศ ดังนั้น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ควบคู่กับการออกกำลังกาย จะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ได้เร็วขึ้น ใช้เวลาสักหน่อยแต่คุ้มค่าแน่นอน
วิธีเพิ่มขนาดต่อมาจะเห็นผลได้รวดเร็วกว่าแต่เป็นแบบกึ่งถาวรเท่านั้น ซึ่งต้องปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำเท่านั้น สามารถแบ่งออกได้หลายวิธีดังนี้
สำหรับการฉีดไขมันตัวเองจะนำมาจากส่วนหน้าท้อง/ต้นขา และฉีดไปยังอวัยวะเพศมีความปลอดภัยเนื่องจากเป็นไขมันของเราเอง จึงไม่ค่อยเกิดภาวะแทรกซ้อนตามมา
การฉีดเพิ่มขนาดด้วยสารชนิดนี้ ได้รับความนิยมในปัจจุบันอย่างมาก มักใช้เสริมความงามบนใบหน้ามีความปลอดภัยสามารถเพิ่มขนาดน้องชายได้เช่นเดียวกัน
การฉีด PRP คือการฉีดเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นสูงกว่าทั่วไป 3 – 8 เท่าเพื่อให้เส้นเลือดขยายใหญ่ขึ้น นิยมฉีดร่วมกับสเต็มเซลล์ให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานขึ้น
สำหรับแนวทางการเพิ่มขนาดน้องชายข้อนี้จะได้ผลลัพธ์แบบถาวร ซึ่งปัจจุบันมีสองตัวเลือกที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การเสริมซิลิโคน แพทย์จะเปิดแผลช่วงหัวหน่าวและใส่ซิลิโคนแบบนุ่มคล้ายจริงเข้าไปใต้ผิวหนังตลอดลำน้องชาย เพิ่มทั้งความยาวและกว้างขึ้น 1.5 – 2 ซม.
วิธีต่อมาคือการใช้เนื้อเยื่อเทียม โดยแพทย์จะแต่งเนื้อเยื่อเทียมให้เข้ากับอวัยวะเพศของแต่ละคนจากนั้นจะสอดใส่บริเวณหัวหน่าวหรือขลิบหนังหุ้มปลาย ช่วยเพิ่มความใหญ่และยาวได้ทันที แต่เมื่อเวลาผ่านไปครึ่งปี จะเหลือเนื้อเยื่อประมาณ 50% และอ่อนนุ่มลง
ปิดท้ายกันที่การปลูกถ่ายผิวหนัง (Dermal fat graft) โดยใช้ผิวหนังจากขอบก้นหรือขาหนีบของตัวเอง แพทย์จะทำการตัดผิวหนังชั้นบนออกและใช้เพียงชั้นล่างรวมถึงไขมันในการฝังเข้าไปที่อวัยวะเพศ แก้มก้นจะมีความหนามากกว่าและให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจกว่าเพราะมีแผลขนาดเล็กอีกด้วย
สำหรับท่านใดที่มีความกังวลใจเกี่ยวกับอวัยวะเพศและสนใจเพิ่มขนาดน้องชายด้วยวิธีการต่าง ๆ ที่เราหยิบมาฝากสามารถสอบถามและปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ก่อนตัดสินใจเพื่อความปลอดภัยและความอุ่นใจ
สามารถพูดคุยได้ทั้งผ่านวิดีโอคอล และแชทถาม-ตอบผ่านแอป Talk to PEACH หรือ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk To PEACH: http://bit.ly/417az7i
อ้างอิง:
https://bit.ly/3H7TpiK
นกเขาไม่ขันตอนเช้า เกิดจากอะไร? 6 สัญญาณเตือนสำหรับผู้ชาย
หลั่งเร็ว ปัญหาใหญ่ของผู้ชาย! แนะนำ 7 วิธีช่วยอาการหลั่งเร็ว