ตกขาวมีกลิ่น เสี่ยงเป็นพยาธิในช่องคลอด ชวนเช็กอาการพร้อมวิธีรักษา

ตกขาวมีกลิ่น เสี่ยงเป็นพยาธิในช่องคลอด ชวนเช็กอาการพร้อมวิธีรักษา

05 มีนาคม 2024

Share on

เมื่อตกขาวเริ่มส่งกลิ่นเหม็น นั่นคือสัญญาณของตกขาวผิดปกติ และนำไปสู่โรคพยาธิในช่องคลอดได้ ซึ่งโรคนี้เป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบได้บ่อย พบได้ทั้งในเพศหญิงและเพศชาย ซึ่งเปอร์เซ็นต์ของเพศหญิงจะพบได้เยอะกว่า โรคนี้น่ากลัวตรงที่ไม่ค่อยแสดงอาการ และเราจะระวังได้อย่างไร รักษาแบบไหนได้บ้างนั้น บทความนี้รวบรวมคำตอบไว้ให้แล้ว

โรคพยาธิในช่องคลอด คืออะไร อันตรายแค่ไหน?

โรคพยาธิในช่องคลอด หรือ Trichomoniasis เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ชนิดหนึ่งที่เกิดจากเชื้อโปรโตซัว Trichomonas vaginalis เป็นพยาธิตัวขนาดเล็กไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า สิ่งที่อันตราย สำหรับโรคนี้คือมักจะไม่แสดงอาการ มีเพียงผู้ป่วยประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นที่แสดงอาการออกมา ทำให้โรคนี้มักแพร่กระจายสู่คนรักหรือคู่นอนได้ง่ายด้วย

คนที่มีความเสี่ยงโรคพยาธิในช่องคลอด

  1. ผู้ที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากภูมิคุ้มกันเริ่มเสื่อมลง
  2. ผู้ที่มีพฤติกรรมชอบเปลี่ยนคู่นอนหลายคน
  3. ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้สวมถุงยางอนามัย
  4. ผู้ที่เคยมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่ติดเชื้อโรคนี้
  5. ผู้ที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ

โรคพยาธิในช่องคลอด อาการมีอะไรบ้าง

สำหรับอาการของโรคนี้มีตั้งแต่เล็กน้อย ไปจนถึงรุนแรง หลัก ๆ แล้วสามารถออกอาการแบ่งตามเพศหญิงและชายดังนี้

อาการสำหรับเพศหญิง

  • ตกขาวผิดปกติ มีฟอง หรือมีสีเหลือง ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
  • รู้สึกคัน แสบ และแดงในช่องคลอดหรือบริเวณช่องคลอด
  • รู้สึกเจ็บท้องน้อยขณะมีเพศสัมพันธ์
  • รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ

อาการสำหรับเพศชาย

  • รู้สึกคัน แสบ และแดงบริเวณอวัยวะเพศ
  • รู้สึกเจ็บขณะมีเพศสัมพันธ์
  • รู้สึกเจ็บขณะปัสสาวะ

หากมีอาการเหล่านี้แล้วยังไม่รีบไปรักษา อาจจะลุกลามทำให้ท่อปัสสาวะอักเสบหรือติดเชื้อได้ง่าย มีโอกาสเสี่ยงโรคมะเร็งปากมดลูก และส่งผลให้มีบุตรยากในอนาคต และยังมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ

ภาวะแทรกซ้อนของการติดเชื้อพยาธิในช่องคลอด ไม่ว่าจะเป็น

  • หากโรคพยาธิในช่องคลอดเกิดกับหญิงมีครรภ์ จะเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด และทารกน้อยอาจมีเกณฑ์น้ำหนักไม่ถึงและเสี่ยงติดโรคร้ายตามมา
  • สำหรับโรคพยาธิในช่องคลอดอาจมีความเสี่ยงทำให้ติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ เช่น หนองในแท้ หนองในเทียม หรือช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย เป็นต้น
  • เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีและนำไปสู่เอดส์
  • อีกหนึ่งภาวะที่น่ากลัวนั่นคือการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ส่งผลให้มีลูกยาก
ปรึกษาไม่ระบุตัวตนผ่าน Talk to PEACH

วิธีการรักษา หากเป็นโรคพยาธิในช่องคลอด

สำหรับโรคพยาธิในช่องคลอดสามารถรักษาให้หายขาดได้ เพียงพบแพทย์และเข้าสู่กระบวนการรักษาที่ถูกต้อง รวมถึงการทานยาปฏิชีวนะอย่างต่อเนื่องให้หาย ทั้งนี้ในระหว่างการรักษาควรงดดื่มแอลกอฮอล์ พักผ่อนให้เพียงพอ และควรงดมีเพศสัมพันธ์ในระหว่างการรักษาและหลังจากหายเป็นปกติอย่างน้อย 1 สัปดาห์  แต่อย่างไรก็ดีแม้รักษาจนหายขาดแล้วก็สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ หากมีเพศสัมพันธ์แบบเปลี่ยนคู่นอนบ่อย เพราะฉะนั้นควรพาคู่นอนมาตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพื่อความสบายใจของทั้งสองฝ่าย ช่วยให้หายไกลโรคด้วย

สังเกตได้อย่างไรว่าอาการดีขึ้นแล้วหลังจากการรักษา?

สังเกตได้จากอาการตกขาวผิดปกติ หรืออาการแสบเวลาปัสสาวะ เริ่มหายไปหลังจากทานยาได้ 3-4 วัน หากอาการต่างๆ ไม่ดีขึ้นตามนี้  ท่านควรมารับการตรวจประเมินซ้ำจากแพทย์ผู้เกี่ยวข้อง

วิธีการป้องกันโรคพยาธิในช่องคลอด

เพราะโรคพยาธิในช่องคลอดสามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ การป้องกันโรคนี้จึงต้องใส่ใจการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่นกันการสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งและไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และแนะนำว่าควรตรวจสุขภาพประจำปีทุก ๆ ปี หากเจอโรคร้ายจะได้รักษาได้อย่างทันท่วงที

กังวลเรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่แน่ใจอาการ ปรึกษา Talk to PEACH ได้เลยตอนนี้

Talk to PEACH Promo
ดาวน์โหลดแอป Talk to PEACH เพื่อปรึกษา

สามารถพูดคุยได้ทั้งผ่านวิดีโอคอล และส่งคำถาม-ตอบผ่านแอป Talk to PEACH หรือหากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk To PEACH: https://oci.ltd/4EDXdBH

อ้างอิง:  

ปัญหาเพศชาย

ปัญหาเพศหญิง

สุขภาพเพศทางกาย