ปวดท้องเมนส์มากเกินไป สัญญาณเสี่ยงช็อกโกแลตซีสต์

ปวดท้องเมนส์มากเกินไป สัญญาณเสี่ยงช็อกโกแลตซีสต์

30 กันยายน 2024

Share on
ปวดท้องเมนส์มากเกินไป สัญญาณเสี่ยงช็อกโกแลตซีสต์1

หลาย ๆ คนมักจะคุ้นหูหรือเคยรู้จักกับชื่อ “ช็อกโกแลตซีสต์” กันมาบ้าง เพราะเป็นหนึ่งในภัยเงียบที่มักเกิดกับคุณผู้หญิง รวมทั้งยังเป็นหนึ่งในโรคทางระบบสืบพันธุ์ ที่สร้างความทรมานกายและความกังวลใจให้ใครหลายคนไม่น้อย

.

บทความนี้ ชวนเช็กสัญญาณเสี่ยงของอาการช็อกโกแลตซีสต์ พร้อมวิธีรักษา และวิธีป้องกัน ที่สามารถนำไปสังเกตและดูแลตัวเองให้ไกลจากโรคนี้

ช็อกโกแลตซีสต์คืออะไร

ปวดท้องเมนส์มากเกินไป สัญญาณเสี่ยงช็อกโกแลตซีสต์3

ภาพจาก www.artfertilityclinics.com

ช็อกโกแลตซีสต์ (Chocolate Cyst) หรือ ในทางการแพทย์เรียกว่า ภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ (Endometriosis) คือ เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญเป็นถุงน้ำ หรือ ซีสต์ นั่นเอง

.

โดยถุงน้ำลักษณะนี้ เกิดจากผนังมดลูกที่ปกติจะลอกตัวและขับออกมาพร้อมกับประจำเดือน แต่หากประจำเดือนไหลออกมาไม่หมด หรือ มีการไหลย้อนกลับไปคั่งอยู่ที่บริเวณปีกมดลูก รังไข่ และอวัยวะอื่น ๆ ในอุ้งเชิงกราน เกิดเป็นถุงน้ำที่มีเลือดคั่งอยู่ จึงเรียกว่าเป็นถุงน้ำ หรือ ซีสต์ ที่มีสีเข้มเหมือนช็อกโกแลต

ช็อกโกแลตซีสต์มีอาการแบบไหน

ปวดท้องเมนส์มากเกินไป สัญญาณเสี่ยงช็อกโกแลตซีสต์2

อาการเริ่มต้นของช็อกโกแลตซีสต์

ช็อกโกแลตซีสต์แรกเริ่มนั้นจะยังไม่มีการแสดงอาการชัดเจน แต่มักจะมีอาการปวดท้องประจำเดือนหนักมาก เป็นการปวดที่มีแนวโน้มมาขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ครั้งที่เป็นประจำเดือน เนื่องจากมดลูกพยายามบีบตัวขับเลือดและถุงน้ำออก ผลที่ตามมาก็คือ อาการปวดหน่วงอย่างมาก นั่นเอง

.

นอกจากนี้ ยังมีเลือดประจำเดือนไหลออกมากะปริบกะปรอยทางช่องคลอด หรือ บางครั้งก็มีเลือดออกมามากเกินกว่าปกติ

.

หากมีอาการเหล่านี้ให้เริ่มสงสัยตัวเองไว้ก่อนว่า อาจจะเสี่ยงเป็นช็อกโกแลตซีสต์ โดยเมื่อมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นแล้ว ควรไปอย่างละเอียดกับแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุต่อไป

ปรึกษาไม่ระบุตัวตนผ่าน Talk to PEACH

ช็อกโกแลตซีสต์ขั้นแสดงอาการ

อาการที่ยืนยันแน่นอนว่าเป็นช็อกโกแลตซีสต์ มักจะมาพร้อมกับการปวดหน่วงท้องน้อย ปวดท้องประจำเดือน ปวดร้าวไปทั้งอุ้งเชิงกราน ปัสสาวะบ่อย เพราะถุงน้ำจะไปกดเบียดและกระตุ้นกระเพาะปัสสาวะ

.

นอกจากนี้แล้ว ยังมีประจำเดือนบ่อยและถี่กว่าปกติ โดยมีระยะของรอบการมีประจำเดือนห่างกันน้อยมาก เช่น ในเดือนหนึ่งเป็นเมนส์มากกว่าสองครั้ง

บางรายอาจมีถ่ายอุจจาระและปัสสาวะปนเลือดออกมาได้ในช่วงเป็นประจำเดือน นอกจากนั้นอาจจะคล้ำได้ก้อนแข็งบริเวณหน้าท้อง เนื่องจากถุงน้ำ หรือ ซีสต์ ขยายตัวใหญ่ขึ้น อาจขยายใหญ่ได้มากถึงขั้นเป็นช็อกโกแลตซีส 5 เซนติเมตร หรือมากกว่านั้นได้เลย ซึ่งหากปล่อยไว้ก็จะเจ็บปวดและเสี่ยงที่ก้อนซีสต์จะแตกสร้างความเสียหายให้กับอวัยวะในอุ้งเชิงกรานอื่น ๆ ได้ 

ช็อกโกแลตซีสต์อันตรายไหม

เนื่องจากอาการของช็อกโกแลตซีสต์หลัก ๆ เลยก็คือ อาการปวดท้อง บางคนที่ไม่รู้ตัวเองก็จะคิดว่าเป็นการปวดท้องประจำเดือนทั่วไป จะมารู้ตัวเองอีกทีก็ตอนที่ก้อนซีสต์ขยายตัวและแตกภายในช่องท้อง ซึ่งจะต้องได้รับการผ่าตัดแบบฉุกเฉินเท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจทำให้เลือดออกในช่องท้องและเสี่ยงเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

.

โดยการเป็นช็อกโกแลตซีสต์นั้นยังเสี่ยงทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากด้วย เพราะซีสต์หรือถุงน้ำจะก่อให้เกิดพังผืดในท่อนำไข่ ทำให้ท่อนำไข่ตีบตันจนไม่สามารถนำไข่และอสุจิให้มาปฏิสนธิกันได้

ช็อกโกแลตซีสต์กลายเป็นมะเร็งได้ไหม

โอกาสที่ช็อกโกแลตซีสต์จะพัฒนาไปเป็นมะเร็งนั้นน้อยมาก พบเพียง 1-2 % แต่การเป็นช็อกโกแลตซีสต์เพิ่มความเสี่ยงการเกิดมะเร็งรังไข่ ชนิดเยื่อบุผิว (Endothelial Ovarian Cancer) ได้มากขึ้น 2-3 เท่าของคนปกติ ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น มีประวัติว่าคนในครอบครัวเป็นมะเร็ง

กลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นช็อกโกแลตซีสต์

สำหรับกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสเป็นช็อกโกแลตซีสต์สูงนั้นจะมีความสัมพันธ์กับการมีประจําเดือน โดยคนที่เป็นประจำเดือนเร็วกว่าวัยเดียวกัน หรือ เข้าสู่วัยหมดประจำเดือนช้า กลุ่มนี้มักจะมีความเสี่ยงที่ประจำเดือนจะไหลย้อนกลับแล้วกลายเป็นช็อกโกแลตซีสต์ได้ 

.

อีกหนึ่งปัจจัยคือ กรรมพันธุ์ สำหรับผู้หญิงที่ในครอบครัวมีแม่ พี่สาว หรือ น้องสาว เป็นโรคนี้ก็จะยิ่งมีความเสี่ยงที่ตัวเองจะเป็นสูง รวมไปถึงอาหารการกิน การดื่มแอลกอฮอล์และกาแฟมาก ๆ ก็มีความเสี่ยงที่เยื่อบุโพรงมดลูกจะเจริญผิดปกติกลายเป็นช็อกโกแลตซีสต์ได้

ช็อกโกแลตซีสต์หายเองได้ไหม

ช็อกโกแลตซีสต์ไม่สามารถหายขาดเองได้ จำเป็นจะต้องพบแพทย์เพื่อเข้าสู่กระบวนการรักษาตามอาการและความรุนแรงของโรค

ช็อกโกแลตซีสต์มีลูกได้ไหม

ถ้าหากเป็นช็อกโกแลตซีสต์ในระยะแรกเริ่มที่ยังไม่มีการอุดตันของท่อนำไข่ก็ยังสามารถตั้งครรภ์มีลูกได้ แต่ทั้งนี้แพทย์จะแนะนำให้รักษาซีสต์ให้หายก่อนเพื่อลดโอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนในระหว่างการตั้งครรภ์ แต่หากเป็นรุนแรงอาจทำให้ไม่สามารถตั้งครรภ์ด้วยวิธีธรรมชาติได้จะต้องใช้การผสมเทียมหรือเทคโนโลยีในการผสมเด็กหลอดแก้วช่วย

ช็อกโกแลตซีสต์วิธีรักษา

การรักษาช็อกโกแลตซีสต์มี 2 วิธี

1. รักษาช็อกโกแลตซีสต์ด้วยยา

การรักษาด้วยยาส่วนใหญ่จะเป็นฮอร์โมน เพื่อกดการทำงานของรังไข่ ทำให้ซีสต์ หรือ รอยโรคฝ่อตัวลงได้ ซึ่งยาที่ใช้รักษาก็มีทั้งแบบกินและแบบฉีดขึ้นอยู่กับการประเมินและวางแผนการรักษาของแพทย์ 

2. รักษาช็อกโกแลตซีสต์ด้วยการผ่าตัด

หากรักษาด้วยการใช้ยาแล้วไม่มีแนวโน้มว่าช็อกโกแลตซีสต์จะยุบตัวลงก็จำเป็นจะต้องพิจารณารักษาด้วยการผ่าตัดร่วมด้วย ซึ่งมีทั้งวิธีการผ่าตัดเปิดหน้าท้องและวิธีการผ่าตัดแบบส่องกล้อง โดยหลังการผ่าตัดยังต้องกินยาฮอร์โมนต่อเนื่อง เพราะหากไม่ได้รับการรักษาด้วยยาฮอร์โมนต่อมีโอกาสที่รอยโรคจะกลับมาเป็นซ้ำ

.

ดังนั้น คนที่ต้องการตั้งครรภ์ควรวางแผนตั้งครรภ์อยู่ในช่วง 1 ปีแรกภายหลังการผ่าตัด ก่อนจะกลับมากินยาฮอร์โมนต่อเพื่อป้องกันการกลับมาเป็นช็อกโกแลตซีสต์ซ้ำ

สงสัยว่าเป็นช็อกโกแลตซีสต์ ปรึกษา Talk to PEACH ได้เลย

ปรึกษาเรื่องเพศแบบไม่ระบุตัวตน ได้ที่แอปฯ Talk to PEACH
ดาวน์โหลดแอป Talk to PEACH เพื่อปรึกษา

ช็อกโกแลตซีสต์เป็นภาวะความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคน ทางที่ดีที่สุดคือต้องหมั่นสำรวจตัวเอง และเข้ารับการตรวจภายในอยู่เป็นประจำ เพื่อตรวจสุขภาวะระบบสืบพันธุ์ป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ได้อย่างทันท่วงที 

.

สุขภาวะทางเพศเป็นเรื่องส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนมา แต่ละคนก็มีปัญหาที่แตกต่างกันไป สามารถปรึกษาโรคทางเพศกับเราได้ในทุก ๆ แง่มุม ไม่ต้องเปิดเผยชื่อ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน สามารถรับคำปรึกษาได้ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk to PEACH: https://oci.ltd/s4knQrE

อ้างอิง:

ปัญหาเพศหญิง