หลั่งในแล้วกินยาคุมจะท้องไหม

หลั่งในแล้วกินยาคุมจะท้องไหม

18 สิงหาคม 2024

Share on
หลั่งในแล้วกินยาคุมจะท้องไหม3

การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงยางป้องกัน เป็นวิธีที่ไม่แนะนำให้ควรทำ เพราะอาจก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ และเสี่ยงต่อการติดต่อโรคทางเพศสัมพันธ์ได้

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ตั้งใจ อาจก่อให้เกิดการหลั่งใน หรือ การหลั่งน้ำอสุจิในช่องคลอดโดยตรง ซึ่งหลายคนนั้นจะใช้วิธีการแก้ปัญหาหลั่งในด้วยการรับประทานยาคุมเสริม แล้วหลั่งในแล้วกินยาคุมจะท้องไหม? บทความนี้ Talk to PEACH ขอพาไปหาคำตอบ

หลั่งใน คืออะไร?

หลั่งในแล้วกินยาคุมจะท้องไหม2

“หลั่งใน” หมายถึงการที่ผู้ชายถึงจุดสุดยอดและปล่อยน้ำอสุจิเข้าภายในช่องคลอดของผู้หญิงโดยตรง การหลั่งในมีผลสำคัญต่อการตั้งครรภ์ เนื่องจากน้ำอสุจิที่ปล่อยออกมามีโอกาสทำให้ไข่ที่ตกในรอบเดือนถูกปฏิสนธิและเกิดการตั้งครรภ์ได้

โดยการมีเพศสัมพันธ์ในกรณีที่หลั่งในควรเป็นเรื่องที่ทั้งสองฝ่ายมีความพร้อมและให้ความยินยอมกันทั้งสองฝ่ายแล้ว เพราะการหลั่งในอาจก่อให้เกิดการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ หรือ เกิดการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

หลั่งในแล้วกินยาคุมจะท้องไหม?

การกินยาเม็ดคุมกำเนิด หรือ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินอย่างถูกต้องสามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ แม้ว่าจะมีการหลั่งใน หรือ มีน้ำอสุจิจะเข้าไปในช่องคลอดก็ตาม

แต่หากการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดแบบ 21 เม็ด และ 28 เม็ด ยังเป็นเรื่องยากสำหรับคุณ และ ไม่อยากได้รับผลข้างเคียงจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน แนะนำให้ใช้การคุมกำเนิดประเภทอื่น ๆ แทน เช่น การฉีดยาคุม การฝังยาคุมกำเนิด และห่วงอนามัย ซึ่งสะดวกและมีประสิทธิภาพมากกว่า

แต่ในปัจจุบัน ยังไม่มีวิธีการคุมกำเนิดใดที่ได้ผล 100% และยังมีโอกาสเล็กน้อยที่การตั้งครรภ์จะเกิดขึ้นได้ แม้ว่าจะใช้การคุมกำเนิดอย่างถูกต้องและสมบูรณ์แบบก็ตาม

ดังนั้น การใช้ถุงยางอนามัยควบคู่ไปกับการคุมกำเนิดอย่างถูกวิธี จึงสามารถช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดี และถุงยางอนามัยยังสามารถช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย

ปรึกษาไม่ระบุตัวตนผ่าน Talk to PEACH

หลั่งใน กลัวท้อง รับมือยังไงดี

หากเผลอหลั่งในและต้องการป้องกันการตั้งครรภ์ หรือ จัดการกับความเสี่ยงของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถทำได้ดังนี้

ป้องกันการตั้งครรภ์ด้วยการคุมกำเนิดฉุกเฉิน

1. ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน 

    ปล่อยในต้องกินยาคุมตอนไหน? สามารถใช้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ควรใช้เร็วที่สุดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่ถึงประสงค์ แล้วคำถามที่ว่า ปล่อยในแล้วกินยาคุมรายเดือนได้ไหมนั้น อาจไม่เพียงพอที่จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้เนื่องจากยาคุมกำเนิดรายเดือน (หรือที่เรียกว่ายาคุมแบบรายวัน) ต้องใช้เวลาสักระยะในการสร้างประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันการตั้งครรภ์ 

    และต้องทำความเข้าใจก่อนว่า การกินยาคุมฉุกเฉินสามารถส่งผลต่อฮอร์โมนได้ อาจทำให้มีประจำเดือนผิดปกติ คลื่นไส้อาเจียน และหากกินบ่อยๆ อาจเสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูกได้

    2. ใส่ห่วงอนามัยฉุกเฉิน 

      ห่วงอนามัยทองแดง (Copper IUD) สามารถใส่ได้ภายใน 5 วันที่มีเพศสัมพันธ์ ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้เกือบ 90-100%

      ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

      1. ตรวจสอบและรับการรักษาเร็วที่สุด

        หากมีความกังวลเกี่ยวกับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสอบและรับการรักษาอย่างเหมาะสม และเข้ารับการตรวจสอบทั่วไปเพื่อตรวจหาโรค ได้แก่ HIV หนองใน ซิฟิลิส และอื่น ๆ

        2. พูดคุยและวางแผน

          ควรมีการสื่อสารที่ชัดเจนและเปิดใจกับคู่รักเกี่ยวกับสถานการณ์และการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้ควรวางแผนเกี่ยวกับวิธีการคุมกำเนิดในอนาคตเพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

          สรุปแล้วการป้องกันและการแก้ไขเมื่อเผลอหลั่งในเป็นเรื่องที่สำคัญ การศึกษาและการสื่อสารระหว่างคู่รักจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายมีความมั่นใจและปลอดภัยในการมีเพศสัมพันธ์ในทุกครั้ง

          มีเซ็กซ์อย่างปลอดภัย ควรทำอย่างไร?

          หลั่งในแล้วกินยาคุมจะท้องไหม1

          การมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย (Safe Sex) เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจและป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD) ซึ่งมีหลากหลายวิธีที่ทำได้จริง ไม่ว่าจะเป็น

          1. การใช้ถุงยางอนามัย

           เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ 

          2. การใช้ยาคุมกำเนิด

          เช่น การกินยาคุมกำเนิดรายวัน หรือทางเลือกการคุมกำเนิดแบบอื่น ๆ เช่น แผ่นแปะคุมกำเนิด, วงแหวนคุมกำเนิด, หรือการฉีดยาคุมกำเนิด ซึ่งเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและสะดวก แต่ทั้งนี้ควรศึกษาว่าแต่ละแบบเหมาะกับเราหรือไม่

          3. การใช้ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน

          ควรใช้ภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันหรือเมื่อถุงยางอนามัยแตก หรือเร็วที่สุด

          4. การตรวจสุขภาพและการตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STD)

          ควรตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะหากมีคู่นอนหลายคนหรือมีคู่นอนใหม่รวมถึงควรเปิดเผยข้อมูลสุขภาพและการตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ระหว่างคู่รัก

          5. การสื่อสารและการตกลงร่วมกัน

          ควรพูดคุยเกี่ยวกับการคุมกำเนิดและการมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยกับคู่รัก และตกลงเรื่องการใช้วิธีคุมกำเนิดและความพร้อมในการมีเพศสัมพันธ์ที่ถูกต้อง

          ยังกังวลใจว่าหลั่งในแล้วกินยาคุมจะท้องไหม คุยกับเราได้เลย

          ปรึกษาเรื่องเพศแบบไม่ระบุตัวตน ได้ที่แอปฯ Talk to PEACH
          ดาวน์โหลดแอป Talk to PEACH เพื่อปรึกษา

          สามารถปรึกษาเรื่องทางเพศ รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับเพศได้อย่างสบายใจในทุก ๆ แง่มุม ไม่ต้องเปิดเผยชื่อ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน สามารถรับคำปรึกษาได้ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk to PEACH: https://oci.ltd/ElwxTFH

          อ้างอิง: 

          สุขภาพเพศทางกาย