10 มกราคม 2024
Red flag เป็นคำที่เข้ามาอยู่ในสื่อโซเชียลและบทสนทนาในชีวิตประจำวันมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่รู้ไหมว่าจริง ๆ แล้วความหมายของ “ธงสีแดง” ที่พูดถึงกันนั้นมันเกี่ยวอะไรกับเรื่องของความสัมพันธ์กันแน่?
.
บทความนี้จะพาไปรู้จักว่า Red flag คืออะไร นอกจากนั้นยังมีคำศัพท์เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในยุคใหม่มาให้ทุกคนได้อัปเดตกัน
โดยปกติแล้วเมื่อคนเราเห็น “ธงสีแดง” จะรู้สึกอย่างไร ? บางคนอาจจะเกิดความตื่นตัว รู้สึกว่าเป็นสัญลักษณ์เตือนว่าจะมีเหตุบางอย่าง โดยเฉพาะสัญญาณเตือนของอันตรายใช่ไหม เมื่อนำมาใช้ในเรื่องความสัมพันธ์ Red flag คือพฤติกรรม บางอย่างที่เตือนถึง “อันตรายในความสัมพันธ์” ทำให้รู้สึกว่าไม่ควรไปต่อในความสัมพันธ์นี้
.
ตัวอย่างเช่น คำพูดที่ไม่ให้เกียรติ การพยายามควบคุม ข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือพฤติกรรมใด ๆ ที่เห็นแล้วทำให้รู้ได้ว่าจะต้องเกิดปัญหาในความสัมพันธ์ในอนาคต และถ้ายังทนคบหากันต่อไป สามารถกลายเป็น Toxic Relationship หรือความสัมพันธ์ที่เป็นพิษได้
ความสัมพันธ์ Toxic ซึ่งเป็นผลมาจากการละเลยสัญญาณ Red flag นั้นส่งผลเสียมากมายต่อผู้ที่ยอมถูกกระทำ เพียงเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับคนที่รัก อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต และสุขภาพกายได้มากมาย
.
ในหลายกรณีจะมีการพูดทำร้ายจิตใจ ไม่ให้เกียรติอยู่ซ้ำ ๆ ซึ่งจะทำให้ไม่มีความสบายใจในความสัมพันธ์ แทนที่คู่รักจะเป็น Safe Zone ของกันและกัน แต่กลายเป็นผู้ที่ทำให้อีกฝ่ายรู้สึกแย่ สามารถบั่นทอนความมั่นใจ และเสียคุณค่าในตัวเอง ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากในการใช้ชีวิตด้วยเช่นกัน
สิ่งสำคัญที่ต้องใช้ในการออกมาจากความสัมพันธ์ Toxic คือ “ความกล้าหาญ” และ “ความรักตัวเอง” เมื่อรักตัวเองมากพอ ก็จะยืนหยัดเพื่อภาพชีวิตของตัวเอง และไม่ยอมทนเพื่อคนอื่น หรือความสัมพันธ์ที่ก่อแต่ผลเสีย
ความสัมพันธ์ที่ไม่มีสถานะชัดเจน อาจจะเป็นทั้งเพื่อน คนที่รู้สึกว่ากำลังเดตกัน แสดงความรัก และมีเซ็กซ์เหมือนที่คนรักทำกัน แต่กลับไม่มีการตกลงสถานะที่ชัดเจน และไม่สามารถยืนยันว่าความสัมพันธ์จะพัฒนาไปได้อีกหรือไม่
Red flag คือ สัญญาณเตือนอันตรายในความสัมพันธ์ ซึ่งอาจจะเป็นได้ตั้งแต่ปัญหาเล็ก อย่างกลิ่นตัว การแต่งตัว ไปจนถึงเรื่องใหญ่อย่าง นิสัยชอบดูถูก ชอบทำร้ายร่างกาย เป็นสัญญาณว่าไม่ควรไปต่อในความสัมพันธ์นี้
Green Flag เป็นขั้วตรงข้ามของ Red flag นั่นก็คือสัญญาณในเชิงบวก เป็นสิ่งที่ทำให้มีความมั่นใจว่าถ้าสานสัมพันธ์กับคนนี้ต่อไปแล้วน่าจะไปด้วยกันได้ดี เช่น นิสัยที่ให้เกียรติ อารมณ์ขัน สิ่งที่ชอบเหมือน ๆ กัน
เป็นสัญญาณที่ไม่ได้เป็นไปในทางบวกหรือลบมากนัก แต่ให้ความรู้สึกเรื่อย ๆ น่าเบื่อ ทำให้ไม่เกิดการกระตือรือร้นในการสานสัมพันธ์ หรือพยายามพัฒนาความสัมพันธ์ไปข้างหน้า
แปลได้ตรงตัวว่าทำตัวเป็น “ผี” ในความสัมพันธ์ นั่นคือการหายไปโดยไม่บอกกล่าวอะไร และไม่มีสัญญาณล่วงหน้า โดยส่วนมากผู้ที่ทำการ Ghosting จะตัดขาดการติดต่อทุกช่องทาง จึงเป็นการตัดความสัมพันธ์ที่ถือว่าโหดร้ายต่อผู้ถูกกระทำ
แปลตรงตัวว่า การโยนระเบิดความรักใส่ เกิดขึ้นเมื่อมีใครบางคนแสดงความรัก ความสนใจ การดูแลเอาใจใส่ที่ท่วมท้น โดยทำไปเพื่อควบคุมอีกฝ่าย ให้เชื่อ และทำตามสิ่งที่ตนต้องการ ซึ่งการแสดงความรักในช่วงแรกจะเกิดขึ้นอยู่ไม่นาน และมักจะสร้างบาดแผลในจิตใจให้กับผู้ถูกกระทำได้อย่างมาก
การไม่ซื่อสัตย์กับคนรักแบบเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่อาจไม่ถือเป็นการนอกใจอย่างเป็นทางการ เช่น การพูดคุย การแชต กับแฟนเก่า เพื่อนต่างเพศ การพูดหยอด หว่านเสน่ห์ ที่เจตนามีความชอบพอฝ่ายตรงข้ามจริง แต่สามารถปฏิเสธได้ว่าไม่มีอะไร
การค่อย ๆ เปิดตัวคนรักบนช่องทางออนไลน์ โดยยังไม่ระบุตัวตนให้คนอื่นรู้ เช่น ลงรูปหรือคลิปวิดีโอที่จับมือกัน มากินข้าวกับใครบางคน โดยถ่ายไม่ให้เห็นหน้า หรือเอาสติ๊กเกอร์มาปิดหน้าไว้
การเจาะจงโพสต์รูปหรือคลิปวิดีโอในโซเชียลมีเดีย เพื่อจงใจดึงความสนใจของคนที่ชอบ ให้รู้สึกประทับใจ เข้ามาคอมเมนต์ หรือพูดคุยเรื่องเกี่ยวกับสิ่งที่โพสต์เอาไว้
การคุยเผื่อเลือก คุยพร้อมกันหลาย ๆ คน เหมือนหว่านเบ็ดเอาไว้ แล้วดูว่าจะมีปลาตัวไหนมากินเบ็ด แล้วก็อาจจะลองเลือกดูอีกทีความสัมพันธ์ ถ้าไม่รู้จะปรึกษาใคร มาพูดคุยกับ Talk to PEACH
ใช้ Pillow Talk Card ช่วยทำความรู้จักอีกฝ่ายให้มากขึ้น หรือ ใช้กระชับความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคู่ได้ง่าย ๆ เพียงดาวน์โหลดเพื่อใช้ได้ฟรีที่: https://oci.ltd/QqZaQqw
อ้างอิง:
ความสัมพันธ์