ชวนสังเกตตุ่มที่น้องสาว ตุ่มที่จิ๋ม และวิธีรักษา Talk To Peach

ชวนสังเกตตุ่มที่น้องสาว ตุ่มที่จิ๋ม และวิธีรักษา Talk To Peach

25 กรกฎาคม 2023

Share on

เกิดตุ่มบวม แดง แสบบริเวณผิวน้องสาว? หลายคนคงเคยเกิดปัญหาตุ่มที่น้องสาว ตุ่มที่จิ๋ม แล้วตุ่มที่น้องสาวที่ดูคล้ายสิวนี่คืออะไร มีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้เป็นและจะรักษายังไงดี บทความนี้จาก Talk To Peach  ขอพาไปเจาะลึกอาการตุ่มที่อวัยวะเพศหญิง อีกหนึ่งเรื่องสุขภาพเพศที่ไม่ควรมองข้าม!

ตุ่มที่น้องสาว สิวที่น้องสาว เรื่องน่ากังวลของใครหลายคน

โดยปกติแล้วร่างกายสามารถผลิตสิวได้ทั้งหญิง และชาย ซึ่งสิวมักจะเกิดขึ้นบริเวณผิวหน้า หรือตามร่างกาย และสิวยังสามารถขึ้นได้บริเวณอวัยวะเพศสืบพันธุ์ ในบางเคสอาจเป็นสิวที่น้องสาวแต่ในบางคนอาจเป็นตุ่มที่น้องสาว ที่เกิดจากการอุดตันของสิ่งสกปรก 

หรือแม้แต่ในบางกรณีอาจพบปัญหานี้ได้หลังการกำจัดขนน้องสาวด้วยตัวเอง ทำให้สาว ๆ หลายคนเกิดความกังวลและไม่มั่นใจในปัญหาดังกล่าว ซึ่งสิวที่น้องสาวต่างมีลักษณะที่เกิดขึ้นแตกต่างออกไป ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่อาจจะเกิดจากโรค สิ่งสกปรก หรือปัญหาผิวต่าง ๆ

ตุ่มที่อวัยวะเพศหญิง หรือสิวที่น้องสาว เกิดจากอะไร?

สิวที่น้องสาว หรือ ตุ่มที่น้องสาว ตุ่มที่จิ๋ม สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุมาก ๆ ซึ่งต้องอาศัยการสังเกตว่าลักษณะตุ่มที่ขึ้นนั้นเป็นแบบไหน สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดตุ่มที่อวัยวะเพศมีดังนี้ 


สิวที่น้องสาวเกิดจากปัญหาผิว 

อาจจะเกิดขึ้นการแพ้แผ่นอนามัยหรือผ้าอนามัย รวมไปถึงการแพ้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น นอกจากนี้บริเวณผิวน้องสาวสามารถเป็นสิวได้จากความอับชื้น หรือแบคทีเรีย รวมไปถึงปัญหาขนคุด จาก

การกำจัดขนน้องสาวที่ไม่ถูกวิธี (อ่านเพิ่ม รวมวิธีกำจัดขนหมออ้อย)

ลักษณะตุ่มที่เกิดขึ้น: เป็นตุ่มที่มีอาการบวมแดง ระคายเคือง และคัน รวมถึงอาการปวดร่วมด้วย


สิวที่น้องสาวเกิดจากปัญหาโรคต่าง ๆ

หากเกิดโรคติดเชื้อเช่น ซีสต์ไขมันขนาดเล็ก หรือเป็นเริ่มที่เกิดจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ก็สามารถเกิดสิวที่น้องสาวได้เช่นกัน 

ลักษณะตุ่มที่เกิดขึ้น: ตุ่มน้องสาวมีลักษณะเป็นก้อนนิ่ม ๆ บีบแล้วอาจเกิดไขมันออกมา และมีกลิ่นเหม็น หรือบางคนอาจจะมีตุ่มใสและหนอง หากมีลักษณะตุ่มเช่นนี้รีบไปพบแพทย์ทันที

สิวที่น้องสาวเกิดจากปัญหาความเครียดและฮอร์โมน

อาจจะขึ้นในช่วงมีประจำเดือน หรือช่วงที่มีภาวะเครียด ก็ทำให้เกิดสิวบริเวณอวัยวะเพศ หรือบริเวณโหนกอวัยวะเพศได้

ลักษณะตุ่มที่เกิดขึ้น: ตุ่มที่อวัยวะเพศมีลักษณะเป็นตุ่มสีแดง อาจก่อให้เกิดอาการคันได้ หรือเป็นสิวอุดตัน

เกิดจากต่อมบาร์โธลินอักเสบ

อาการต่อมบาร์โธลินอักเสบ (Bartholin’s Cyst) เกิดจากต่อมบาร์โธลินที่ทำหน้าที่ผลิตสารหล่อลื่น อยู่บริเวณปากช่องคลอด เกิดอาการบวมขึ้นและเป็นถุงน้ำ

ลักษณะตุ่มที่เกิดขึ้น:  ตุ่มที่น้องสาว ตุ่มที่จิ๋มเป็นตุ่มนูน บวม แดง อาจมีหนอง และทำให้ทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันไม่สะดวก 

ข้อควรระวัง: หากมีอาการลักษณะดังกล่าวควรไปพบแพทย์ทันที ไม่ควรบีบหนองออกด้วยตัวเอง เนื่องจากอาจทำให้เกิดการติดเชื้อหรืออักเสบเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ตุ่มที่น้องสาว ตุ่มที่จิ๋ม เสี่ยงเป็นโรคอะไรได้บ้าง?

เมื่อมีสิวขึ้นในที่ลับหลายคนอาจกังวลว่าการมีตุ่มที่บริเวณอวัยวะเพศหญิง เป็นสัญญาณของโรคหรือสภาวะสุขภาพต่าง ๆ ได้หลายด้าน ดังนี้ 

การติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์

  • หนองในเทียม (Chlamydia) และ หนองในแท้ (Gonorrhea) อาจทำให้เกิดตุ่มหรือการระคายเคืองในบริเวณอวัยวะเพศ
  • ซิฟิลิส (Syphilis) ระยะที่หนึ่งอาจทำให้เกิดแผลหรือก้อนบริเวณอวัยวะเพศ
  • เริมที่อวัยวะเพศ (Genital Herpes) ทำให้เกิดตุ่มน้ำใสๆ หรือแผลเล็กๆ ที่มีอาการคันหรือเจ็บ

การติดเชื้อราและแบคทีเรีย

  • การติดเชื้อยีสต์ (Yeast Infection) อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและตุ่ม
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Vaginosis) อาจทำให้เกิดตุ่มหรือการระคายเคือง

โรคผิวหนัง

  • ซีสต์ (Cysts) เช่น บาร์โธลินซีสต์ (Bartholin Cyst)
  • การอักเสบของรูขุมขน (Folliculitis) เกิดจากการติดเชื้อของรูขุมขน
  • โรคสะเก็ดเงิน (Psoriasis) ทำให้เกิดผื่นหรือตุ่มในบริเวณอวัยวะเพศ

หากพบตุ่มในบริเวณอวัยวะเพศ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจสอบและรับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุที่แท้จริงของตุ่มนั้น ๆ และการรักษาด้วยตนเองโดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ อื่น ๆ ตามมาได้ 

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดสิวที่น้องสาว พร้อมทริคดูแลผิว

หากคุณต้องการป้องกันไม่ให้เกิดตุ่มที่น้องสาว ตุ่มที่จิ๋มซ้ำ ๆ แนะนำให้ดูแลเรื่องของความสะอาดอยู่เสมอ ใส่ใจต่อสุขภาพเพศ โดยสามารถปฎิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้ 

  1. เช็กอุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกาย เช่น ผ้าขนหนู หรือเสื้อผ้า ไม่ควรใส่ซ้ำ เพื่อป้องกันสิ่งสกปรก
  2. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลจุดซ่อนเร้นที่ผสมน้ำหอม หรือมีสารเคมี เพราะอาจทำให้น้องสาวระคายเคืองได้
  3. ควรใช้อุปกรณ์คุมกำเนิดเช่นถุงยางอนามัย หรือ หมั่นตรวจเช็กสุขภาพทางเพศ เพื่อป้องกันโรคร้าย
  4. เข้ารับการฉีดวัคซันป้องกันไวรัสที่เกี่ยวกับเพศ เช่น ไวรัส HPV (เอชพีวี) หรือ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก รวมถึงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่น ๆ อีกด้วย
  5. หากเกิดอาการคันบริเวณผิวน้องสาว ไม่ควรสัมผัสหรือเกา เพราะอาจสะสมแบคทีเรียหรือสิ่งสกปรกอาจะทำให้เกิดอาการอักเสบ และเกิดสิวขึ้นได้
  6. อย่าลืมดูแลสุขภาพของผิวน้องสาว เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างอาหารที่มีโพรไบโอติกส์ เช่น โยเกิร์ต มิโสะ กิมจิ หรือนัตโตะ เพราะการดูแลผิวจากภายในสู่ภายนอก จะช่วยให้ผิวน้องสาวของเราแข็งแรงขึ้น ไม่ทำให้เกิดสิว หรืออาการคันระคายเคืองได้ง่าย

ปรึกษาเรื่องสิวที่น้องสาว กับ Talk to PEACH

Talk to PEACH Promo
ดาวน์โหลดแอป Talk to PEACH เพื่อปรึกษา

การมีสิวที่บริเวณอวัยวะเพศหรือ “น้องสาว” อาจเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจและต้องการการดูแลที่เหมาะสม หากคุณต้องการปรึกษาปัญหานี้กับผู้เชี่ยวชาญ ที่ Talk to PEACH มีผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพสำหรับผู้หญิง 

สามารถปรึกษาเรื่องทางเพศ รวมถึงโรคที่เกี่ยวกับเพศได้อย่างสบายใจในทุก ๆ แง่มุม ไม่ต้องเปิดเผยชื่อ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน สามารถรับคำปรึกษาได้ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม

ได้ที่ Talk to PEACH: https://oci.ltd/Kyq0t

อ้างอิง: 

ปัญหาเพศหญิง

สุขภาพเพศทางกาย