คัน แสบ ตกขาวผิดปกติสัญญาณเสี่ยงอาการช่องคลอดอักเสบ

คัน แสบ ตกขาวผิดปกติสัญญาณเสี่ยงอาการช่องคลอดอักเสบ

24 สิงหาคม 2023

Share on
Vaginitis1

เมื่อสาว ๆ มีอาการคัน มีตกขาวผิดปกติ ตกขาวปนเลือด รู้สึกแสบร้อนบริเวณช่องคลอด นั่นอาจเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอาการที่ควรพึงระวัง อย่าง “อาการช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis)” ซึ่งอาการช่องคลอดอักเสบสามารถเกิดได้จากทั้งเชื้อราหรือแบคทีเรีย 

หากสาว ๆ คนไหนกำลังสงสัยว่ามีอาการเข้าข่ายอาการช่องคลอดอักเสบ บทความนี้จะบอกให้ทราบถึงลักษณะอาการ สาเหตุ พร้อมวิธีรักษาและการป้องกัน

ชวนสังเกตอาการช่องคลอดอักเสบ

Vaginitis2

อาการช่องคลอดอักเสบ แบ่งได้ 2 แบบ ทั้งเกิดจากเชื้อรา และแบคทีเรีย สามารถสังเกตอาการเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง เมื่อพบว่ามีอาการเหล่านี้แนะนำให้รีบพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อหาทางรักษาและป้องกันอาการดังกล่าว โดยภาวะช่องคลอดอักเสบมักมีอาการที่พบบ่อย ดังนี้

ลักษณะอาการช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา

หากเป็นอาการช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา จะเกิดจากความอับชื้น ทำให้เกิดอาการคัน และแสบร้อนขณะมีเพศสัมพันธ์ นอกจากนี้ยังมีอาการอื่น ๆ อีก เช่น

  • ตกขาวสีขาวขุ่นเหมือนแป้งเปียก 
  • เวลาปัสสาวะรู้สึกเจ็บหรือแสบ
  • มีอาการบวมแดง บริเวณอวัยวะเพศ

ลักษณะอาการช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย

แต่ถ้าอาการช่องคลอดอักเสบเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย นั่นเป็นเพราะภายในช่องคลอดขาดความสมดุลของเชื้อแบคทีเรียดี ทำให้มีแบคทีเรียก่อโรคเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยมักมีอาการตกขาวที่มีกลิ่นคาวหลังมีเพศสัมพันธ์ ทั้งนี้อาจมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น

  • มีตกขาวผิดปกติ สีขาวปนเทา กลิ่นคาวปลาเค็ม กลิ่นจะรุนแรงหลังหมดประจำเดือนใหม่ ๆ หรือหลังมีเพศสัมพันธ์
  • อาการระคายเคืองบริเวณช่องคลอด
  • มีอาการเจ็บแสบเวลามีเพศสัมพันธ์

ช่องคลอดอักเสบเกิดจากสาเหตุใด และมีปัจจัยอะไรบ้าง?

Vaginitis3

อย่างที่ทราบแล้วว่า อาการช่องคลอดอักเสบ มีสาเหตุหลักจากสองสาเหตุ คือ เกิดจากเชื้อรา และเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยการหาสาเหตุว่าอาการช่องคลอดอักเสบเกิดจากเชื้อราหรือเชื้อแบคทีเรียนั้น สามารถทำได้โดยการตรวจภายในหรือนำตกขาวไปตรวจวินิจฉัย

สาเหตุของอาการช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา
มีหลากหลายสาเหตุที่อาจทำให้ช่องคลอดอักเสบที่เกิดจากเชื้อราได้ ไม่ว่าจะเป็น

  1. การใช้ยาปฏิชีวนะ ติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งตัวยาอาจเข้าไปทำลายเชื้อแบคทีเรียดีในช่องคลอด ทำให้เกิดเชื้อราได้ง่าย
  2. ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มขึ้น เช่น หญิงที่ตั้งครรภ์ หรือรับประทานยาคุมกำเนิด
  3. จากโรคประจำตัว เช่นโรคเบาหวาน ก็มีความเสี่ยงที่อาจทำให้ติดเชื้อราในช่องคลอดได้

สาเหตุของอาการช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย

สำหรับสาเหตุของช่องคลอดอักเสบที่เกิดจากแบคทีเรีย จะแตกต่างกับที่เกิดจากเชื้อรา ซึ่งมีปัจจัยมากมาย ดังนี้

  1. การดูแลอวัยวะเพศที่ผิดวิธี เช่นการสวนล้างช่องคลอด หรือใช้แผ่นอนามัยที่มีส่วนผสมของน้ำหอม ก็อาจทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรียได้
  2. การเปลี่ยนคู่นอนบ่อย ๆ ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดภาวะช่องคลอดอักเสบ แต่ยังนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
  3. การดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่หรือรับประทานอาหารหมักดองมากเกินไป ก็ส่งผลต่อการติดเชื้อแบคทีเรียได้เช่นกัน

วิธีรักษาอาการช่องคลอดอักเสบ

Vaginitis4

สำหรับวิธีการรักษาช่องคลอดอักเสบนั้น ต้องพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเฉพาะ ไม่แนะนำให้รักษาเอง เนื่องจากภาวะนี้เกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย ต้องให้แพทย์วิเคราะห์ถึงสาเหตุก่อนว่า เป็นอาการช่องคลอดอักเสบที่เกิดจากสาเหตุใด

วิธีการรักษาช่องคลอดอักเสบจากเชื้อรา

ส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาผ่านการใช้ยาต้านเชื้อรา เป็นยาในกลุ่ม โคลไตรมาโซล ฟลูโคนาโซล เป็นต้น ซึ่งยาที่ทานนั้นต้องอยู่ในการแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ตัวยากลุ่มนี้ช่วยให้ไม่กลับมาเป็นซ้ำ

วิธีการรักษาช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรีย

การรักษาช่องคลอดอักเสบจากแบคทีเรียจะให้รับประทานยาปฏิชีวนะ เป็นยากลุ่ม Metronidazole หรือ Clindamycin ซึ่งอาจจะมีผลข้างเคียงทำให้เกิดคลื่นไส้อาเจียน

ทั้งนี้ หากสงสัยว่าอาการช่องคลอดอักเสบกี่วันหาย นั้นขึ้นอยู่กับอาการและวิธีการรักษา ควรดูแลสุขภาพ พักผ่อนให้เพียงพอ งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ก็จะช่วยให้ฟื้นฟูร่างกายได้ไวขึ้น

วิธีการป้องกันอาการช่องคลอดอักเสบ 

Vaginitis5


หลังจากที่เรารู้สาเหตุ อาการ และวิธีการรักษาไปเบื้องต้นของอาการช่องคลอดอักเสบแล้ว สำหรับคนที่ยังไม่เคยเป็น หรือคนที่เป็นแล้วไม่อยากให้เป็นซ้ำ มีวิธีป้องกันช่องคลอดอักเสบ ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ มาฝากกัน

  1. ทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ใส่กางใน กางเกงหรือกระโปรงที่คับ
    และแน่นบริเวณช่องคลอด
  2. หลีกเลี่ยงการสวนล้างช่องคลอด หรือใช้น้ำยาล้างทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น
  3. หลีกเลี่ยงการใส่ผ้าอนามัยตลอดเวลา และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 3-4 ชั่วโมง
  4. ใช้อุปกรณ์ป้องกันการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้ง เช่น การใช้ถุงยางอนามัย
  5. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ขณะมีอาการช่องคลอดอักเสบ
  6. หากมีอาการผิดปกติ เช่น ตกขาวมีกลิ่นเหม็น แนะนำให้รีบพบแพทย์หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

ไม่แน่ใจว่าใช่อาการช่องคลอดอักเสบหรือไม่ ปรึกษา Talk To PEACH ได้

Talk to PEACH Promo

หากมีข้อกังวลใจเกี่ยวกับอาการช่องคลอดอักเสบ สามารถปรึกษาเรื่องสุขภาพเพศกับนักเพศวิทยา ผู้เชี่ยวชาญด้านเพศจาก Talk to PEACH โดยเราพร้อมเป็นพื้นที่ปลอดภัยให้คุณปรึกษาทุกแง่มุมของเรื่องเพศได้แบบไม่ต้องเปิดเผยตัวตน 

สามารถพูดคุยได้ทั้งผ่านวิดีโอคอล และแชทถาม-ตอบผ่านแอป Talk to PEACH หรือ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk To PEACH: https://bit.ly/3P8CiS7 

บทความที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง:

ปัญหาเพศหญิง

สุขภาพเพศทางกาย