เลือดออก ไม่ใช่ประจําเดือน สัญญาณเตือนปากมดลูกอักเสบ

อาการเลือดออกทางช่องคลอดที่เกิดขึ้นนอกเหนือจากช่วงประจำเดือน เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะปากมดลูกอักเสบ

.

บทความนี้ Talk to PEACH จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับอาการที่อาจเกิดขึ้นจากภาวะปากมดลูกอักเสบ รวมถึงวิธีการป้องกันที่สามารถนำไปปฏิบัติดูแลตัวเองในเบื้องต้นได้อย่างถูกต้อง

ปากมดลูกอักเสบ คืออะไร?

ปากมดลูกอักเสบ (Cervicitis) คือ ภาวะที่ปากมดลูกซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมต่อระหว่างมดลูกและช่องคลอดเกิดการอักเสบหรือระคายเคือง ภาวะนี้อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อรา หรือ ปรสิต หรืออาจมาจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่น การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันอย่างถูกวิธี การใช้ยาคุมกำเนิด การใส่ห่วงอนามัย หรือ การแพ้สารเคมีบางชนิด 

ปากมดลูกอักเสบแสดงอาการอะไรบ้าง

ปากมดลูกอักเสบเป็นภาวะที่เกิดจากการอักเสบของปากมดลูกซึ่งเป็นส่วนที่เชื่อมระหว่างมดลูกและช่องคลอด ปากมดลูกอักเสบอาการที่พบได้บ่อยมี ดังนี้

1. เลือดออกกะปริบกะปรอย

อาการที่พบอาจมีเลือดออกทางช่องคลอด กะปริบกะปรอย ซึ่งอาจเกิดขึ้นนอกช่วงมีประจำเดือน เลือดที่ออกมักมีปริมาณน้อยแต่เป็นอาการที่ควรให้ความสำคัญ

2. ตกขาวผิดปกติ

ลักษณะของตกขาวอาจมีการเปลี่ยนแปลง เช่น มีสีเหลือง เขียว หรือมีกลิ่นไม่พึงประสงค์

3. ปวดท้องน้อย

บางรายอาจมีอาการปวดหน่วง ๆ ที่ท้องน้อย หรือปวดหลังร่วมด้วย

4. รู้สึกแสบหรือคันในช่องคลอด

ความรู้สึกไม่สบายหรือคันในบริเวณช่องคลอดอาจเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือน

ประเภทของภาวะปากมดลูกอักเสบ

อาการปากมดลูกอักเสบอาจแสดงออกเป็นเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ตกขาวผิดปกติ ปวดท้องน้อยหรือรู้สึกไม่สบายในบริเวณช่องคลอด การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบและอาจรวมถึงการใช้ยาแก้อักเสบ ยาต้านเชื้อราหรือยาปฏิชีวนะตามความเหมาะสม การอักเสบของปากมดลูกสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก ดังนี้

1. ปากมดลูกอักเสบแบบเฉียบพลัน (Acute Cervicitis)

เป็นภาวะการอักเสบที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและมีอาการแสดงที่ค่อนข้างชัดเจน ผู้ป่วยมักจะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของตกขาว เช่น มีปริมาณมากขึ้นผิดปกติ มีสีที่ผิดไปจากเดิม อาจเป็นสีเหลือง เขียว หรือมีกลิ่นเหม็น รวมถึงอาจมีอาการคัน บวมแดงหรือเจ็บปวดบริเวณช่องคลอดได้ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันและรุนแรง หากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงทีภาวะอักเสบนี้มักจะหายได้อย่างรวดเร็ว

2. ปากมดลูกอักเสบเรื้อรัง (Chronic Cervicitis)

ปากมดลูกอักเสบเชื้อราในช่องคลอดเรื้อรังเป็นภาวะการอักเสบที่ดำเนินอยู่นานและมีอาการที่ไม่ชัดเจนเท่ากับภาวะเฉียบพลัน ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการใด ๆ เลย หรือมีอาการเพียงเล็กน้อย เช่น มีตกขาวปริมาณน้อย ๆ หรือมีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ และเป็น ๆ หาย ๆ ทำให้ผู้ป่วยอาจไม่สังเกตเห็นความผิดปกติได้ง่าย การวินิจฉัยภาวะอักเสบเรื้อรังจึงมักอาศัยการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำหรือการตรวจเพิ่มเติมเมื่อมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ร่วมด้วย

ปากมดลูกอักเสบ อันตรายไหม

ภาวะปากมดลูกอักเสบติดเชื้อนั้นเป็นปัญหาสุขภาพที่ควรให้ความสำคัญอย่างยิ่ง หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที เชื้อโรคที่ก่อให้เกิดการอักเสบอาจแพร่กระจายไปยังอวัยวะสืบพันธุ์ส่วนอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น มดลูก ปีกมดลูก และแม้กระทั่งช่องท้อง ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอย่างมาก

.

ดังนั้น เมื่อมีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าจะเป็นปากมดลูกอักเสบควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องโดยเร็วที่สุด การรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยลดความรุนแรงของโรคและป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงตามมาได้

ปากมดลูกอักเสบ หายเองได้ไหม

ปากมดลูกอักเสบเป็นภาวะที่ไม่สามารถหายได้เอง หากปล่อยทิ้งไว้อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพที่รุนแรงมากขึ้น การรักษาจะต้องได้รับการวินิจฉัยและดูแลโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งวิธีการรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของการอักเสบ เช่น การใช้ยาปฏิชีวนะเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรีย หรือยาต้านไวรัสสำหรับการติดเชื้อไวรัส ดังนั้นหากมีอาการผิดปกติที่สงสัยว่าจะเป็นปากมดลูกอักเสบควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม

ปากมดลูกอักเสบ กี่วันหาย

ระยะเวลาในการหายจากปากมดลูกอักเสบนั้นแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของเชื้อที่ก่อให้เกิดการอักเสบ ความรุนแรงของอาการและการตอบสนองต่อการรักษา โดยทั่วไปหากได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงทีระยะเวลาฟื้นตัวอาจอยู่ในช่วง 7-14 แต่ในบางกรณีที่อาการรุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนอาจต้องใช้เวลาในการรักษานานขึ้นและควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

วิธีรักษาปากมดลูกอักเสบ

การรักษาปากมดลูกอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบ ดังนี้

1. การใช้ยา

หากเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อรา แพทย์อาจสั่งยาปฏิชีวนะหรือยาต้านเชื้อราที่เหมาะสมตามชนิดของเชื้อที่พบ ควรใช้ยาตามที่แพทย์สั่งและรับประทานหรือใช้ยาให้ครบตามกำหนดเพื่อป้องกันการดื้อยาและการกำเริบของอาการ

2. การรักษาด้วยวิธีการทางการแพทย์

ในบางกรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนอาจต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เช่น การขูดเนื้อเยื่อเพื่อการตรวจวินิจฉัยเพิ่มเติม หรือการผ่าตัดในกรณีที่มีความจำเป็น

3. การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การรักษาสุขอนามัยในบริเวณช่องคลอดอย่างเหมาะสม การใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์และการหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำให้ระคายเคือง เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันและลดโอกาสการเกิดปากมดลูกอักเสบซ้ำ

4. การตรวจสุขภาพประจำปี

การตรวจสุขภาพและตรวจภายในประจำปีจะช่วยให้สามารถตรวจพบความผิดปกติที่เกิดขึ้นและรับการรักษาได้ทันท่วงที

.

ภาวะปากมดลูกอักเสบเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญหากปล่อยไว้อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงได้ ดังนั้นการรู้จักอาการและเข้าใจถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจะช่วยให้สามารถรักษาได้อย่างถูกต้องและป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อน การรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงทีจึงเป็นสิ่งจำเป็นรวมถึงการตรวจสุขภาพสตรีเป็นประจำและการดูแลสุขอนามัยส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันและรักษาปัญหาสุขภาพนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

สงสัยว่าเป็นปากมดลูกอักเสบหรือไม่ ปรึกษา Talk to PEACH เลย

สามารถปรึกษาอาการปากมดลูกอักเสบ หรือ โรคทางเพศกับเราได้ในทุก ๆ แง่มุม ไม่ต้องเปิดเผยชื่อ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน สามารถรับคำปรึกษาได้ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk to PEACH: https://oci.ltd/2mqwc3L

อ้างอิง:

• Cervicitis