อสุจิสีเหลือง เกิดจากอะไร อันตรายไหม ชวนดูสีอสุจิบอกสัญญาณสุขภาพ

ความผิดปกติของอสุจิเป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้ผู้ชายหลายคนแอบกังวลใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำอสุจิน้อยไปจนถึงสีของอสุจิที่เปลี่ยนแปลงไปกลายเป็นสีเหลือง 

.

บทความนี้ Talk to PEACH จะพาไปทำความเข้าใจว่า หากมีน้ำอสุจิสีเหลือง ขุ่น เป็นวุ้น เกิดจากอะไร อันตรายหรือไม่ พร้อมวิธีการรักษาและป้องกัน

อสุจิสีเหลือง ผิดปกติไหม

ปกติแล้วน้ำอสุจิของผู้ชายจะมีสีขาว หรือ สีขาวอมเทา แต่หากสังเกตว่าน้ำอสุจิที่หลั่งออกมามีสีผิดปกติกลายเป็นอสุจิสีเหลืองขุ่น อาจเป็นสัญญาณเตือนปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่ เช่น โรคดีซ่าน หรือ การติดเชื้อที่ต่อมลูกหมาก 

.

ดังนั้น แม้ว่าปัญหาอสุจิกลายเป็นสีเหลืองจะไม่ใช่ปัญหาร้ายแรง แต่ก็ต้องมองหาสาเหตุหรือทบทวนพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในช่วงนั้นว่า มีพฤติกรรมอะไรที่ส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนสีของอสุจิหรือไม่ หรืออาจมีอาการป่วยที่แอบแฝงอยู่ได้

น้ำอสุจิสีเหลือง เป็นวุ้น อันตรายไหม

บางคนอาจสังเกตว่าน้ำอสุจิสีเหลือง เป็นวุ้น หลังการหลั่งจนทำให้กังวลและสงสัยว่าอาการแบบนี้มีอันตรายหรือไม่ 

จริง ๆ แล้วอสุจิลักษณะดังกล่าวนั้นไม่อันตรายและไม่ถือว่าผิดปกติ เป็นอาการที่พบได้หากพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันของเราเปลี่ยนไปจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพทางเพศ เช่น ดื่มน้ำน้อยหรือไม่ได้หลั่งอสุจิเป็นเวลานาน 

อย่างไรก็ตามหากสังเกตแล้วพบว่ามีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ รู้สึกแสบร้อนน้องชายระหว่างปัสสาวะ มีหนองสีเหลืองข้นไหลออกมา อัณฑะบวม ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นอาการเบื้องต้นของโรคเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์

อสุจิปกติ ต้องเป็นสีอะไร

ปกติแล้วน้ำอสุจิจะมีสีขาว สีขาวขุ่น สีครีม หรือสีขาวอมเทา สีของอสุจิสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรม การใช้ชีวิต การดูแลตัวเอง สุขภาพ และพันธุกรรม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อสีของอสุจิของเราได้

อสุจิสีเหลือง เพราะอะไร เกิดจากอะไร

1. อายุมากขึ้นทำให้อสุจิสีเหลืองได้

อายุส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงหลายด้านในชีวิตคนเรารวมถึงการเปลี่ยนแปลงของสีอสุจิซึ่งขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองในแต่ละช่วงอายุด้วย

2. การกินยารักษาโรคหรือวิตามินทำให้อสุจิสีเหลือง

ยาบางชนิดอย่างยาปฏิชีวนะ ยาสำหรับรักษาวัณโรค ยาสำหรับรักษาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ รวมถึงอาหารเสริมบางชนิดอาจทำให้ปัสสาวะและน้ำอสุจิมีสีเหลืองส้ม ส่วนการกินอาหารเสริมประเภทวิตามินบีอาจทำให้ปัสสาวะและน้ำอสุจิมีสีเหลืองสดได้

3. การรับประทานอาหารมีผลให้อสุจิสีเหลืองได้

การรับประทานอาหารอาจทำให้อสุจิของผู้ชายเปลี่ยนสีได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารที่มีส่วนผสมของสีผสมอาหารรวมสีจากธรรมชาติ โดยเฉพาะอาหารที่มีกำมะถันเป็น่สวนประกอบ เช่น กระเทียม ขมิ้น หัวหอม และหน่อไม้ฝรั่ง

4. อสุจิสีเหลืองอาจเกิดจากอั้นปัสสาวะนานเกินไป

น้ำอสุจิและปัสสาวะจะหลั่งออกจากร่างกายของเราผ่านท่อปัสสาวะ หากอั้นปัสสาวะนานเกินไปจนมีปัสสาวะค้างอยู่ในท่อ ของเหลวที่ค้างอยู่อาจหลั่งออกมาพร้อมอสุจิทำให้อสุจิสีเหลืองได้

5. ไม่ได้หลั่งนานเกินไปทำให้อสุจิสีเหลืองได้

การเว้นจากการหลั่งนานเกินไปก็ส่งผลต่อสีของอสุจิทำให้อสุจิสีเหลืองขุ่นได้เช่นกัน โดยอสุจิเก่าที่ไม่ได้หลั่งนาน ๆ เมื่อหลั่งออกมาแล้วมักจะมีสีเหลือง

6. การสูบบุหรี่ส่งผลให้อสุจิสีเหลืองได้

การสูบบุหรี่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราหลายด้าน นอกจากนั้นแล้วนิโคตินในบุหรี่ยังมีส่วนทำให้อสุจิกลายเป็นสีเหลืองด้วย

7. มีโรคหรืออาการป่วยทำให้อสุจิสีเหลืองได้

โรคบางประเภทส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของสีอสุจิได้ เช่น

โรคดีซ่าน (Jaundice)

โรคดีซ่าน เป็นภาวะทางการแพทย์ที่เกิดจากการมีบิลิรูบิน (Bilirubin) ซึ่งเป็นของเสียที่เกิดจากการสลายตัวของเซลล์เม็ดเลือดแดงตามธรรมชาติของร่างกายสะสมอยู่มากเกินไป ปกติแล้วตับจะทำหน้าที่กำจัดเซลล์ของเสียเหล่านี้ออกจากร่างกาย แต่หากเกิดภาวะผิดปกติทำให้ตับไม่สามารถกำจัดของเสียเหล่านี้ได้ สารที่ตกค้างอยู่ก็อาจส่งผลต่อร่างกายของเรา เนื่องจากบิลิรูบินมีสีเหลือง จึงมีส่วนทำให้ตาขาว ผิวหนัง เยื่อเมือก รวมถึงน้ำอสุจิกลายเป็นสีเหลืองด้วยเช่นกัน

.

ต่อมลูกหมากอักเสบ (Prostatitis)

ต่อมลูกหมากอักเสบ เป็นภาวะที่ทำให้เกิดอาการปวดและการติดเชื้อในต่อมลูกหมาก อาจเกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียเรื้อรังเนื่องจากน้ำอสุจิบางส่วนผลิตขึ้นที่ต่อมลูกหมาก ดังนั้น หากต่อมลูกหมากติดเชื้อ น้ำอสุจิก็อาจเกิดความผิดปกติหรือมีสีเหลืองได้เช่นกัน

8. อสุจิสีเหลืองที่มาจากการติดเชื้อ

การติดเชื้อแบคทีเรียในต่อมลูกหมากหรือการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้อสุจิเปลี่ยนเป็นสีเหลือง

9. โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทำให้อสุจิสีเหลืองได้

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หลายชนิดสามารถทำให้สีของอสุจิเปลี่ยนไปได้ โรคที่พบบ่อย ได้แก่

• เริม (Genital herpes)

เริมที่เกิดขึ้นบริเวณน้องชายเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสเริม เมื่อติดเชื้อแล้วเชื้อไวรัสจะอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการและจะกลับมาเป็นอีกเป็นระยะ ๆ เมื่อกลับมาเป็นซ้ำจะมีอาการปวดแสบ คัน เป็นแผล และมีตุ่มแดงขนาดเล็กหรือตุ่มน้ำใส

.

• หนองใน (Gonorrhea)

หนองในเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เกิดจากแบคทีเรีย ทำให้เกิดอาการปวด มีตกขาว ปัสสาวะแสบขัด

.

• ไวรัสตับอักเสบ (Hepatitis)

ไวรัสตับอักเสบ A ไวรัสตับอักเสบ B และ ไวรัสตับอักเสบ C สามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ โรคไวรัสตับอักเสบทำให้เกิดภาวะตับอักเสบรุนแรงจนอาจนำไปสู่โรคดีซ่าน ส่งผลให้น้ำอสุจิมีสีเหลืองได้เช่นกัน

อสุจิสีเหลือง แก้ยังไง

หลายคนอาจสงสัยว่าอสุจิสีเหลือง แก้ยังไง สำหรับการรักษาเมื่อน้ำอสุจิสีเหลืองนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุของอาการ 

• หากสาเหตุเกิดจากอายุที่ส่งผลต่อความเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ก็อาจไม่จำเป็นต้องรักษา หรือ หากความเปลี่ยนแปลงของสีอสุจิเกิดจากอาหาร ยา หรืออาหารเสริม น้ำอสุจิก็สามารถกลับมาเป็นสีปกติได้เองตามธรรมชาติหลังจากร่างกายขับสารส่วนเกินจากอาหารและยาเหล่านั้นออกหมด 

.

• หากเกิดจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการติดเชื้ออื่น ๆ อาจต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะหรือยาต้านไวรัส ทั้งนี้ ต้องเข้าพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาก่อน ไม่ควรรักษาอาการด้วยตนเองโดยเด็ดขาด

.

• แต่หากเราสังเกตว่าอสุจิสีเหลืองตั้งแต่ 1 – 2 สัปดาห์ขึ้นไป หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย อย่าง อาการปวดน้องชาย เป็นไข้ ปัสสาวะมีเลือดปน ควรไปพบแพทย์ทันที เพื่อตรวจให้แน่ใจและเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

ป้องกันอาการอสุจิสีเหลืองได้อย่างไร

เราสามารถป้องกันและลดความเสี่ยงในการเกิดอสุจิสีเหลืองได้ ดังนี้

1. ลดการกินอาหารที่มีกำมะถันสูง

อาหารที่มีกำมะถันเป็นส่วนประกอบ เช่น กระเทียม ขมิ้น หัวหอม และหน่อไม้ฝรั่ง เพราะอาจทำให้น้ำอสุจิสีเหลืองได้ 

ดังนั้น หากลดอาหารเหล่านี้ลงหรือกินในปริมาณที่พอเหมาะก็จะช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของสีอสุจิได้

2. เลิกพฤติกรรมสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่นอกจากจะส่งผลเสียต่อสุขภาพโดยรวมแล้ว นิโคตินในบุหรี่ยังทำให้น้ำอสุจิสีเหลืองอีกด้วย การเลิกสูบบุหรี่จึงช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้สีอสุจิเปลี่ยนแปลงไปแถมยังดีต่อสุขภาพของเราในทุกด้าน

3. ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์

ถุงยางอนามัยมีส่วนช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และเมื่อลดความเสี่ยงการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ลงแล้ว ก็สามารถป้องกันอาการน้ำอสุจิกลายเป็นสีเหลืองจากโรคติดต่อเหล่านั้นได้เช่นกัน

4. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอและไม่อั้นปัสสาวะ

ดื่มน้ำสะอาดอย่างน้อย 8 แก้วในแต่ละวัน และต้องไม่อั้นปัสสาวะ เพื่อลดปัญหาปัสสาวะค้างท่อจนทำให้อสุจิมีสีเหลืองหลังการหลั่ง

.

อสุจิสีเหลืองไม่ใช่ปัญหาใหญ่เพราะเป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ของเรา ใครอยากรู้ว่าอสุจิสีเหลือง แก้ยังไง มีอันตรายไหม คงได้คำตอบไปแล้ว แต่ที่สำคัญหากพบว่าอสุจิของเรามีสีเปลี่ยนไปต้องสังเกตอาการอื่นร่วมด้วยทุกครั้ง ถ้ามีอาการผิดปกตินอกจากอสุจิเปลี่ยนสี ควรปรึกษาแพทย์ทันทีเพื่อรักษาอย่างถูกต้อง 

มีปัญหาอสุจิสีเหลือง ปรึกษา Talk to PEACH ได้เลย

หนุ่ม ๆ ที่มีปัญหาอสุจิสีเหลือง หรือ ปรึกษาเรื่องทางเพศอื่น ๆ รวมถึงโรคทางเพศต่าง ๆ ได้อย่างสบายใจในทุก ๆ แง่มุม ไม่ต้องเปิดเผยชื่อ ไม่ต้องเปิดเผยตัวตน สามารถรับคำปรึกษาได้ทันที หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องเพศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Talk to PEACH: https://oci.ltd/rIuaJYv

อ้างอิง:

• Yellow Semen
• What to Know About Yellow Semen
• Why Is My Semen Yellow?